ศาลสั่งจำคุกอีก 4 ปี “พงศ์พัศน์ ฉายาพันธุ์” อดีต ผบช.ก.ฐานรับของโจร กรณีสะสมพระรูปปั้นรัชกาลที่ 5 ที่ถูกขโมยมา รวม 7 องค์ มูลค่าเฉียดล้านบาท
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 11.00 น. ศาลนัดสอบคำให้การ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อายุ 59 ปี อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นจำเลยในความผิดฐานรับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
ศาลได้อ่านฟ้องให้จำเลยฟังว่า โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 56 - 21 ธ.ค. 2556 ได้มีคนร้ายลักเอาพระรูปปั้นรัชกาลที่ 5 ขนาดครึ่งตัว สีเงิน จำนวน 7 องค์ ราคารวม 700,000 บาทของบุคคลผู้มีชื่อเป็นผู้เสียหายไปโดยทุจริต แล้วต่อมาในวันที่ 9 ต.ค. 2556 และ 19 พ.ย. 2557 จำเลยก็ได้รับพระรูปปั้นรัชกาลที่ 5 ทั้งหมดไว้ โดยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยเอาไป หรือซื้อ จำนำ หรือรับไว้จากคนร้าย โดยรู้อยู่แล้วว่าทรัพย์ดังกล่าวได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์
ต่อมาวันที่ 19 พ.ย. 2557 เจ้าหน้าที่ทหารยึดพระรูปปั้นดังกล่าวได้ จึงส่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดี ซึ่งวันที่ 13 มี.ค. 2558 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและทำการสอบสวนจำเลยแล้วให้การรับสารภาพข้อหารับของโจร ส่วนของกลางพนักงานสอบสวนได้ส่งคืนผู้เสียหายแล้ว เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. และ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และขอให้นับโทษต่อจากอีก 6 สำนวนที่รับโทษไปแล้ว จำเลยรับทราบข้อหาแล้วแถลงต่อศาลว่าให้รับสารภาพ เนื่องจากเป็นคดีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ศาลจึงพิพากษาได้โดยไม่ต้องสืบพยานประกอบ จึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องรวม 2 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 2 ปี
ก่อนหน้านี้ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำเลยมาแล้ว 6 สำนวนคือคดีเรียกรับส่วย น้ำมันเถื่อน, คดีรับส่วย แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจใน บช.ก., คดีลักลอบเปิดบ่อนการพนันโคลอนเซ่ ย่านพระรามเก้า, คดีร่วมกันฟอกเงิน, คดีกระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ และคดีลักลอบครอบครองโบราณวัตถุ รวมโทษจำคุก 34 ปี 3 เดือน