สตม.แถลงจับอาชญากรข้ามชาติจำนวน 5 รายที่ได้รับการประสานจากตำรวจสากลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวรัสเซีย จีน ไต้หวันและเยอรมนี หลังก่อคดีแล้วหลบหนีเข้าไทย
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร.(บร 2)/ผอ.ศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุกิจ โคอินทรางกูร รอง ผบช.สตม.(บร 1), พล.ต.ต.ณัฐธร เพราะสุนทร รอง ผบช.สตม.(กม), พล.ต.ต.ภาคภูมิ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม.(มค 1), พล.ต.ต.นุชิต ศรีสมพงษ์ รอง ผบช.สตม.(บร 2), พล.ต.ต.อภิรัต นิยมการ รอง ผบช.สตม.(มค 2) และ พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการอาชญากรข้ามชาติที่เข้ามาก่ออาชญากรรมในไทย และผู้ต้องหาที่กระทำความผิดแล้วหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวในไทยจำนวน 5 ราย ดังนี้
พล.ต.ท.ศักดากล่าวว่า รายแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. ร่วมกับ ตม.จว.ภูเก็ต สามารถจับกุม Mr. DMITRII RODIONOV อายุ 38 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากลในคดีองค์กรอาชญากรรมและฉ้อโกงบริษัทขนส่งสินค้า มูลค่าเสียหาย 20 ล้านรูเบิล หรือประมาณ 25 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 61/10 ซอยสามัคคี 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม.สามารถจับกุม นายเฉิน ฮงฮวน (CHEN HUNG HSUN) อายุ 34 ปี ชาวไต้หวัน โดยสามารถควบคุมตัวได้ที่ห้อง 814 รวมทรัพย์อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 664/75 ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 26 แยก 8 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือให้ติดตามตัว เพราะเป็นบุคคลที่มีหมายจับและเป็นที่ต้องการตัวของทางการไต้หวัน ในข้อหามียาเสพติดไว้ในความครอบครอง (เคตามีน) หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเฉิน ฮงฮวนได้แล้วจึงดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและเตรียมส่งกลับประเทศเพื่อดำเนินคดีต่อไป
รายที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม.สามารถควบคุมตัว นางเชี่ยว หมิงชู (HSIAO MIN CHU) อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 57/1 ม.1 ต.นาพิน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือให้ติดตามตัว เพราะเป็นบุคคลที่มีหมายจับและเป็นที่ต้องการตัวของทางการไต้หวัน กระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ มูลค่าความเสียหาย 57,287,663 ดอลลาร์ไต้หวัน หลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนางเชี่ยว หมิงชู ทาง สตม.ได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและเตรียมส่งกลับประเทศเพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ศักดากล่าวต่อว่า รายที่ 4 สอท.สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้ประสานความร่วมมือกับ บก.สส.สตม. ให้สืบสวนติดตามตัวนาย Wen Liping อายุ 32 ปี สัญชาติจีน ได้กระทำความผิดก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจร้ายแรงในประเทศจีนโดยการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนกว่า 500 คน ด้วยการจัดตั้งบริษัท JiangbeiLvshang Futures Trade โดยไม่มีใบอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ให้เข้าร่วมลงทุนซื้อขายอะลูมิเนียมล่วงหน้าผ่านบริษัท แล้วได้หลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทยทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ร่วมลงทุน ประมาณมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านหยวน หรือประมาณ 50 ล้านบาท จนกระทั่งวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทาง บก.สส.สตม.ได้สืบสวนทราบว่านาย Wen Liping หลบหนีเข้ามาสอนภาษาจีนในโรงเรียนพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้ทำการจับกุมและเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองต่อไป
รายที่ 5 สอท.สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย ได้ประสานขอความร่วมมือกับ บก.สส.สตม.ให้สืบสวนติดตามตัวนาย Mario Wilhelm SCHAEFER สัญชาติเยอรมนีซึ่งได้กระทำความผิดปลอมตัวเป็นคนส่งพัสดุ และใช้อาวุธปืนเทียมลอกเลียนแบบอาวุธปืนจริงบุกเข้าไปในบ้านพักของผู้เสียหายในเมืองมิวนิก สหพันธรัฐเยอรมนี จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่กรรโชก และบังคับบุตรชายผู้เสียหายให้ใช้สายไฟพันธนาการตนเองกับเครื่องทำความร้อน โดยนาย Mario Wilhelm SCHAEFER ได้ทิ้งจดหมายข่มขู่เรียกร้องเงินค่าไถ่จำนวน 2.5 ล้านยูโร หรือประมาณ 95 ล้านบาท โดยระบุในจดหมายว่าจะฆ่าผู้เสียหายทิ้ง จากนั้นได้บังคับและนำผู้เสียหายไปยังสถานที่ที่นาย Mario Wilhelm SCHAEFER เช่าด้วยการใช้ชื่อปลอมจัดเตรียมไว้เพื่อคุมขังผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่าระหว่างทางผู้เสียหายสามารถหลบหนีจากการควบคุมของนาย Mario Wilhelm SCHAEFER ได้ พร้อมทั้งได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่นาย Mario Wilhelm SCHAEFER จะหลบหนีและเดินทางเข้ามาประเทศไทย ต่อมาศาลแขวงมิวนิกได้ออกหมายจับนาย Mario Wilhelm SCHAEFER กระทั่งวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทาง บก.สส.สตม. ได้สืบสวนทราบว่านาย Mario Wilhelm SCHAEFER ได้หลบหนีมาอยู่กับภรรยาคนไทยที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ จึงได้เข้าทำการจับกุมและเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองต่อไป
พล.ต.ท.ศักดากล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทาง ตม.จว.ชลบุรี นำโดย พ.ต.อ.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผกก.ตม.จว.ชลบุรี, พ.ต.ท.รัชทพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผกก.ตม.จว.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ชลบุรี ได้จับกุมแก๊งต่างชาติกรรโชกทรัพย์นักธุรกิจฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายในคดีดังกล่าว ได้มาพบเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ชลบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติจำนวน 4 คน บุกรุกเข้าไปในโรงงานของผู้เสียหายภายในหมู่บ้านเอกมงคล 4 และข่มขู่ยึดเอาทรัพย์สิน อะไหล่เครื่องจักรผลิตอาหาร มูลค่าประมาณ 50,000 บาท จากนั้นได้บังคับตัวไปยังห้องพักบริเวณรอยัลไทยเรสซิเด้นท์ ถนนเทพประสิทธิ์ ซอย 7 พร้อมกับบังคับข่มขู่ภรรยาและบุตรของผู้เสียหายและยึดเอาทรัพย์สิน เครื่องคอมพิวเตอร์ MAC BOOK จำนวน 2 เครื่อง มูลค่าประมาณ 50,000 บาท และโทรศัพท์มือถือแล้วหลบหนีไป ต่อมาได้โทรศัพท์ข่มขู่เรียกเงินจากผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชี นายเดนนิส ซาโบเดฟ จำนวน 15,000 บาท เนื่องจากเกิดความเกรงกลัวและได้หยุดกิจการประมาณ 2 สัปดาห์ ความเสียหายประมาณ 200,000บาทต่อมาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.สภ.บางละมุง ศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับจนกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.ชลบุรี ได้สืบสวนติดตามและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้แก่นายทอร์ เฟนรีร์พอลสัน ฮัลแลน (MR.THOR FENRIRPALLSON HALLAN) สัญชาติอังกฤษ และนายเดนิส ซาโบเดฟ (MR.DENIS ZABODAEV) สัญชาติรัสเซีย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ศักดากล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 58 ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับในความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ น.ส.นาตาเลีย มาเคียน (MS.NATALLIA MAKIAN) สัญชาติรัสเซีย ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าร่วมกระทำผิด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.ชลบุรี สืบทราบว่า น.ส.นาตาเลียหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเลขที่ 21/152 หมู่บ้านโชคชัย การ์เด้นโฮม 2 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบการอยู่ในราชอาณาจักรพบว่าผู้ถูกจับเดินทางเข้าออกหลายครั้ง ล่าสุดเข้ามาเมื่อ 22 มี.ค. 58 วีซ่าประเภทท่องเที่ยว (60 วัน) อนุญาตถึงวันที่ 20 พ.ค. ซึ่งข่าวการจับกุมตัวผู้กระทำผิดทั้ง 2 รายก่อนหน้านี้ทำให้ น..นาตาเลียต้องหลบซ่อนตัวจนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด ตม.จว.ชลบุรี จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป