สังคมยอมรับ “เกย์-กะเทย-ทอม-ดี้” แบบไม่เข้าใจ มีเงื่อนไข “ดี-เก่ง” ถึงยอมรับ

แพทย์ชี้สังคมเปิดกว้างและยอมรับ “เพศหลากหลาย” เกย์ กะเทย ทอม ดี้ มากขึ้น แต่ไม่ได้ยอมรับอย่างเข้าใจ มีเงื่อนไขต้องเป็นคนดี ประสบความสำเร็จถึงยอมรับ ชี้ต้องผลักดันให้ยอมรับเพศหลากหลายอย่างไม่มีเงื่อนไข ต้องอาศัยสื่อกลางช่วยทำความเข้าใจ ทั้งคลินิกเพศหลากหลาย แพทย์ ด้านกลุ่มหลากหลายทางเพศเปิดตัวหนังสือจดหมายถึงแม่ สะท้อนความรู้สึกอยากให้ครอบครัวยอมรับ

วันนี้ (12 พ.ค.) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมานคร น.ส.อัญชนา สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการโครงการมูลนิธิอัญจารี กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “จดหมายถึงแม่” ที่รวบรวมจดหมายจากลูกๆ กลุ่มหลากหลายทางเพศที่ต้องการส่งความรู้สึกให้พ่อแม่และสังคมได้อ่าน เพื่อความเข้าใจและยอมรับต่อลูกที่เป็นกะเทย ทอม ดี้ เกย์ เป็นต้น ว่า หนังสือดังกล่าวเกิดจากความรู้สึกสะเทือนใจที่มีต่อข่าวลูกทอมฆ่าตัวตายและทิ้งจดหมายถึงแม่ ที่ระบุว่าแม่ไม่เข้าใจความรักที่ลูกมีต่อเพศเดียวกัน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้มีลูกที่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศเข้ามาปรึกษาอัญจารีมากขึ้น นอกจากนี้ ยังพบความรุนแรงรูปแบบต่างๆ ความมีอคติต่อคนกลุ่มนี้ รวมไปถึงการที่พ่อแม่ไม่ยอมรับลูก จนมีผลต่อจิตใจทำให้เกิดความเครียด ความกังวล กลัวพ่อแม่ไม่รัก และเสียใจ อัญจารี จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายรวบรวมจดหมาย อีเมล เฟซบุ๊ก ที่กลุ่มคนหลากหลายทางเพศถ่ายทอดความรู้สึก ประสบการณ์ และความปรารถนาที่ต้องการให้พ่อแม่เข้าใจและยอมรับ มาทำเป็นหนังสือ เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนกลุ่มนี้ได้สื่อสารสั้น เปิดเผยความรู้สึก ความสัมพันธ์ทั้งสุข เศร้า เหงา หวาดกลัว รัก ปะปนกันไป รวมถึงคิดทบทวนเรื่องราวในรูปแบบจดหมายกับบุคคลในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง น่าจะมีส่วนช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศได้บ้าง ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจ และช่วยให้สามารถเข้าใจสถานการณ์ปัญหาของตนเองเพื่อนำไปสู่การแก้ไขต่อไป

พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร คลินิกเพศหลากหลายในวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การที่พ่อแม่ไม่ยอมรับลูกที่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ ทำให้เกิดความทุกข์ทั้งพ่อแม่และลูกเอง ซึ่งล้วนเกิดจากความรักที่มีต่อกัน พ่อแม่เป็นทุกข์เพราะเป็นห่วงลูก ลูกเป็นทุกข์เพราะรักพ่อแม่ หากลูกไม่รักพ่อแม่ก็จะไม่มีความรู้สึกเป็นทุกข์กับการที่พ่อแม่ไม่เข้าใจ ดังนั้น พ่อแม่ควรยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น ไม่ฝืนธรรมชาติของเขา เหมือนการเขียนหนังสือ หากพ่อแม่ถนัดขวาแต่ลูกถนัดซ้ายก็ไม่ควรบังคับให้ลูกเขียนด้วยมือขวาเช่นตัวเอง เรื่องความหลากหลายทางเพศก็เช่นกัน พ่อแม่ควรยอมรับและเข้าใจว่าเพศไม่ได้มีแค่ชายและหญิงเท่านั้น คือ มีอวัยวะเพศชายคือผู้ชาย อวัยวะเพศหญิงคือผู้หญิง แต่ยังมีความหลากหลายอีกมาก ซึ่งปัจจุบันแม้สังคมไทยจะเปิดกว้างและยอมรับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่เป็นการยอมรับเพราะกลุ่มคนหลากหลายทางเพศมีมากขึ้น ไม่ใช่การยอมรับด้วยความเข้าใจ จึงถือว่าสังคมไทยยังไม่เข้าใจเรื่อความหลากหลายทางเพศที่แท้จริง

“จากการทำวิจัยโดยสำรวจเยาวชน กทม.ระดับมัธยม 3,000 ราย พบว่า เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ 11% ได้รับการยอมรับจากครอบครัวเพียง 50% ที่เหลือยังไม่ยอมรับ โดยกลุ่มเด็กที่ไม่ได้รับการยอมรับจะมีผลการเรียนแย่กว่า มีอาการซึมเศร้า และอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่า ดังนั้น พ่อแม่ควรยอมรับในสิ่งลูกเป็น และต้องยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นคนดี ประสบความสำเร็จในชีวิตจึงจะยอมรับ ซึ่งการจะทำให้สังคมและพ่อแม่ยอมรับให้ได้ว่าเพศมีความหลากหลายมากกว่าแค่ 2 เพศ ต้องอาศัยสื่อกลางในการสื่อสาร เช่น หนังสือจดหมายถึงแม่ที่มาช่วยเปิดเผยความรู้สึก หรือแม้แต่แพทย์ คลินิกหลากหลายทางเพศ ก็จะเป็นหนทางหนึ่งในการช่วยสร้างความเข้าใจให้แก่ครอบครัวและสังคมได้” พญ.จิราภรณ์ กล่าว

พญ.จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า คลินิกเพศหลากหลายในวัยรุ่น รพ.รามาธิบดี เปิดให้บริการมาตั้งแต่ ก.ย. ปี 2557 ให้คำปรึกษาความหลากหลายทางเพศในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 10 - 24 ปี ขณะนี้มีเคสเข้ามารับคำปรึกษาแล้วประมาณ 20 - 30 ราย เนื่องจากคลินิกเปิดให้บริการเดือนละครั้ง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นพ่อแม่พาลูกมาปรึกษามากกว่าเด็กวอล์กอินเข้ามารับคำปรึกษาเอง ซึ่งมีทั้งกลุ่มพ่อแม่ที่ยอมรับในตัวลูกแต่อยากมาขอคำปรึกษา และกลุ่มพ่อแม่ที่ไม่ยอมรับลูก ต้องการแก้ไขให้ลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่หลังจากที่คลินิกให้คำปรึกษาพบว่า ส่วนใหญ่พ่อแม่มีความเข้าใจและยอมรับในตัวลูกมากขึ้น

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่