xs
xsm
sm
md
lg

ร้องดีเอสไอ ช่วยทวงสิทธิที่ดินทำกิน หลังกลุ่มบุคคลอ้างขายให้นายทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ชาวบ้านเกาะยาว ร้องดีเอสไอ สอบกลุ่มบุคคลนำที่ดินใกล้โรมแรมกว่า 90 ไร่ ขายให้นายทุนโดยเจ้าของไม่ยินยอม

วานนี้ (27 มิ.ย.) พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีการบุกรุกที่ดินของรัฐ ป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2549 กระทั่งสามารถดำเนินคดีและศาลได้พิพากษาลงโทษผู้เกี่ยวข้องไปแล้วบางส่วน เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้านและเก็บข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ขณะลงพื้นที่ ได้มี นายฐิติศักดิ์ แซ่เหลียง ชาวบ้านหมู่ 7 ต.พรุใน อ.เกาะยาวใหญ่ จ.พังงา นำเอกสารหลักฐานยื่นต่อ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อร้องทุกข์ ภายหลังมีบุคคลร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐนำที่ดินของตนและเพื่อนบ้านกว่า 95 ไร่ ไปขายให้กับผู้ประกอบการโรงแรม 2 แห่ง โดยที่ดินดังกล่าวมีเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ชาวบ้านมีสิทธิในการทำกินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และมีการปลอมเอกสาร น.ส.3 เพื่อนำไปขายให้กับนายทุน

นายฐิติศักดิ์ เผยว่า เมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา มีกลุ่มบุคคลมารังวัดที่ดินของตนและชาวบ้าน ซึ่งติดกับโรงแรมแห่งหนึ่ง ไปขายให้กับนายทุน โดยที่ดินดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ที่ดินนี้เป็นที่ทำกินตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทำหนังสือรับรองสิทธิให้ ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลได้ไปอ้างกับนายทุนว่าที่ดินเป็นของเขา จึงให้เอกชนมารังวัดและซื้อ ขาย โดยที่เจ้าของที่แท้จริงไม่ยินยอม แต่อย่างใด

“ปัญหาบางส่วนเกิดจากเมื่อก่อนในการขึ้นทะเบียนที่ดินมีการแจ้งข้อมูลการครอบครองไม่ตรงตามที่มีอยู่จริง เช่น มี 10 ไร่ แต่บอกว่ามี 5 ไร่ เพราะกลัวว่าจะเสียภาษีที่ดิน อีกอย่างชาวบ้านก็ทำมาหากินกันก็ไม่คิดไปออกเอกสารใดๆ ก็รู้ที่ของใครเป็นของใคร จนกลุ่มคนหัวใสร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐมาแอบอ้างว่าเป็นที่ดินของตัวเองแล้วเอาไปขายกับนายทุน ซึ่งผมเชื่อว่าคนเหล่านี้ก็เป็นแพะ ให้นายทุนอีกทอดหนึ่ง เพื่อให้ได้ที่ดินไปทำธุรกิจ” นายฐิติศักดิ์ กล่าว


นอกจากนี้ ชาวบ้านบางรายถูกกลุ่มบุคคลร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ระดับกำนัน นายอำเภอ ปลอม น.ส.3 โดยอ้างที่ของชาวบ้านเพื่อขายให้นายทุนอีกกว่า 70 ไร่ ซึ่งทั้ง 2 กรณี อยากให้ดีเอสไอตรวจสอบเหมือนกรณีที่ผ่านมา



กำลังโหลดความคิดเห็น