บช.น.ประชุมเครียดคดีชิงรถขนเงินบริษัท โพรเกส กันภัย ล่าสุดทราบหมายเลขทะเบียนแล้ว คาดไม่ใช่มือสมัครเล่นและมีการเตรียมการอย่างดี คาดออกหมายจับได้เร็วๆ นี้
วันนี้ (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ประชุมความคืบหน้าคดีคนร้ายชิงทรัพย์รถขนเงินบริษัท โพรเกส กันภัย จำกัด ซึ่งมารับเงินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาเทสโก้โลตัส ถนนพระราม1 เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เวลาประมาณ 17.09 น. โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ศรีวราห์เปิดเผยหลังการประชุมว่า ยืนยันว่าการออกหมายจับคนร้ายจะต้องออกหมายจับตามเลขบัตรประชาชน 13 หลักเท่านั้น ส่วนรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ขณะนี้ชุดสืบสวนทราบหมายเลขทะเบียนแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ และจำนวนเงินที่คนร้ายได้ไปนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตัดสินได้ คงจะต้องสอบสวนทางธนาคารเพิ่มเติม เพราะการก่อเหตุในกรณีนี้เป็นการชิงทรัพย์ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุจะเป็นใครก็ได้ จึงตั้งชุดสืบสวนไว้หลายชุด ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปสอบเพิ่มเติมคนแทนเวร โดยเบื้องต้นให้การว่ามีธุระ แต่ต่อมามีภาพปรากฏในคลิปกล้องวงจรเดินอยู่ภายในบริษัทในวันและเวลาเกิดเหตุ
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้ประชุมไป 10 กว่ารอบแล้ว ถ้าถามว่าจะได้ตัวคนร้ายภายในอาทิตย์นี้หรือไม่นั้น ตอบได้ยากมาก เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุไปแล้ว 20 ปาก ถือว่าข้อมูลที่ได้มีประโยชน์ในรูปคดี ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุอาจจะมีมากกว่า 2 คนนั้นยังตอบไม่ได้ เพราะต้องรอผลการจากสรุปรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน ส่วนเส้นทางหลบหนีของร้ายได้ทำการตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เชื่อว่ายังคงอยู่ในพื้นที่นครบาลและมีการเตรียมการมาอย่างดี เพราะเท่าที่ดูไม่ใช่มือสมัครเล่น
พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า เหตุแบบนี้มันเกิดขึ้นหลายครั้งกับรถบริษัทขนเงินดังกล่าวใน จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สิงห์บุรี รวมถึงภาค 1 ด้วย ทั้งนี้อาจมีคนในเครื่องแบบมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะว่าลักษณะมีความชำนาญการใช้กุญแจมือ การใช้อาวุธเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาเรื่องบริษัทรถขนเงินถูกชิงทรัพย์ก็ต้องย้ำระเบียบการขนเงินของบริษัทที่ตกลงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ซึ่งมีอยู่แล้วแต่ทางบริษัทไม่ปฏิบัติตาม
พล.ต.ต.ชาญเทพเปิดเผยหลังการประชุมว่า เบื้องต้นได้รวบรวมข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดก็สามารถรวบรวมได้พอสมควร ส่วนการออกหมายจับนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะคนร้ายที่ก่อเหตุก็สงสัยอยู่หลายกรณี หรือคนร้ายอาจจะเป็นบุคคลในธาคารหรือไม่นั้น จะต้องรอการสอบสวนอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนจากบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งเรียกสอบบุคลที่เคยมีประวัติการก่อคดี
ด้าน พ.ต.อ.นพศิลป์กล่าวว่า สำหรับตำหนิรูปพรรณคนร้ายคนที่ 1 คนร้ายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใช้อาวุธปืนลูกโม่ สวมรองเท้าแวนสีดำ และตำหนิรูปพรรณคนร้ายคนที่2 คนร้ายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด สวมเสื้อเชียวลายพรางทหารแขนยาว เป็นผู้ใช้อาวุธปืนจี้นายยุทธพิชัย กลั่นประสม ส่วนรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคือ จักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ 125 พีอาร์ ปี 2011 สีขาว-น้ำเงิน ทั้งนี้สำหรับผู้ที่พบเบาะแสคนร้ายสามารถโทรศัพท์มาแจ้งได้ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ถนนศรีอยุธยา เบอร์ 0-2354-8226
รายงานข่าวแจ้งว่า ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป มียอดความเสียหายจากตู้เงินฝาก 8,438,200 บาท เงินต่างประเทศ 22,887.29 บาท เงินสดจากธนาคาร 6,850,000 บาท รวม 15,311,087.29 บาท ทั้งนี้ สำหรับพนักงานที่รับขนส่งเงินในวันเกิดเหตุ คือ นายยุทธพิชัย กลั่นประทุม หรือยุทธ อายุ 35 ปี หัวหน้าทีม นายณัฐวัฒน์ ใจแก้ว หรือบอย อายุ 29 ปี คนขับ นายเอกพันธ์ แจ้งสิทธาเวช หรือแซม อายุ 26 ปี พกอาวุธปืน .38 มาแทนเวรนายอนุสรณ์ หรือฉุย ช่อบัวทอง ที่ลางานในวันเกิดเหตุ