xs
xsm
sm
md
lg

ฎีกายื่นประหารหนุ่มเลือดร้อนยิงวิศวกรเครือซีพีดับย่านรัชดาฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แฟ้มภาพ
ฎีกายืนประหารชีวิตหนุ่มเลือดร้อนชักปืน 11 มม. ยิงวิศวกรเครือซีพี ดับ สาเหตุทะเลาะกันในร้านเหล้า รัชดาฯ ซอย 6 ศาลชี้พฤติการณ์อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย พร้อมให้ชดใช้เงินญาติผู้ตายอีก 5 ล้านบาท

ที่ห้องพิจารณา 814 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (19 มิ.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ. 2494 / 2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายประเสริฐ ช่วยชนะ อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 47/3 หมู่ 1 ต.เคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่น และ พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2492

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2555 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2555 เวลากลางคืน จำเลยซึ่งขับรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ได้ใช้อาวุธปืน ขนาด 11 มม. ยิงใส่ นายจิรโรจน์ รักวงษ์วาน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 4 ต.วัดดาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี วิศวกรโยธา บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ที่ศีรษะ 1 นัด ถึงแก่ความตาย และยิง นายนัฐพล รัตนะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 7 ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ กระสุนถูกแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู ทะเบียน ทล 685 กทม. เพื่อให้แท็กซี่ไปส่งกลับที่พักย่านบางเขน โดยสาเหตุมาจากที่ทั้งสองฝ่ายไปเที่ยวดื่มสุราที่ร้านอาหารสปูน ถ.รัชดาภิเษก ซอย 6 จนมีปากเสียงกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุมจำเลยได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่บ้านญาติ จ.อุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ชั้นสอบสวนและชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด

คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ประหารชีวิต จำเลยยื่นฎีกา อ้างว่าขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน แสงสว่างไม่เพียงพอ พยานโจทก์ไม่สามารถจดจำใบหน้าจำเลยได้ และขอให้ศาลลดโทษ

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดแล้วเห็นว่า พยานโจทก์ซึ่งเป็นประจักษ์พยานมีผู้เสียหาย และโชเฟอร์แท็กซี่ รวมทั้งพนักงานในร้านต่างเบิกความยืนยัน สอดคล้องต้องกันโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองที่จะปรักปรำใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับโทษ พยานหลักฐานโจทก์จึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยเป็นคนร้ายในคดีนี้ ที่จำเลยขอลดโทษนั้น เห็นว่า จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ทางนำสืบก็ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ทั้งพฤติการณ์การกระทำผิดของจำเลยเป็นการอุกอาจ ไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง กรณีจึงไม่มีเหตุลดโทษ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยมานั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 5 ล้านบาทเศษ แก่บิดา มารดา ผู้ตายด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น