กองปราบปรามจับผู้ต้องหาแก๊งลักคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โสตทัศน์ศึกษาโรงเรียนในภาคอีสาน เสียหายกว่า 4 ล้านบาท สารภาพนำไปขายตามห้างสรรพสินค้าย่านรังสิต และงามวงศ์วาน อ้างนำเงินไปใช้จ่ายและเล่นบ่อนการพนัน
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.พลฑิต ไชยรส ผกก.3 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นายณัฐวุฒิ สุทธิประภา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/114 ม.3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์โสตทัศน์ศึกษา อุปกรณ์ทำลายสิ่งกีดกั้น เช่น ชะแลง คีม ที่ตัดกระจกไขควง คัตเตอร์ เครื่องถอดสกรูไฟฟ้า อุปกรณ์ในการพรางตัว อาทิ แผ่นป้ายทะเบียนปลอม และอื่นๆ อีกหลายรายการ ได้ที่บ้านพักเลขที่ 91/114 ม.3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มิจฉาชีพออกตระเวนลักทรัพย์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โสตทัศน์ศึกษาตามโรงเรียนชนบทหลายแห่งในเขตพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักเรียนในแทบชนบทเป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่าคนร้ายทำกันเป็นขบวนการ มีนายณัฐวุฒิเป็นตัวการสำคัญทำหน้าที่คอยสั่งการ และร่วมกระทำผิดตลอดจนการนำของกลางไปขายในแหล่งรับซื้อต่างๆ จึงตามแกะรอยจนทราบว่าได้หลบหนีลบดานอยู่ภายในบ้านเลขที่ 91/114 ม.3 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำกำลังพร้อมหมายเข้าจับกุมและขยายผลตรวจค้นภายในบ้านพักจนพบของกลางดังกล่าวจึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายณัฐวุฒิรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้เคยมีอาชีพเป็นคนขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จึงมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าพอสมควร แต่เนื่องจากถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างเมื่อปี 56 จึงกลายเป็นคนตกงาน ก่อนจะได้รับการชักชวนจากกลุ่มเพื่อนอีก 3 คนให้ร่วมกันขับรถออกตระเวนลักทรัพย์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตามโรงเรียนชนบทต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้ไม่ค่อยเข้มงวดด้านการรักษาความปลอดภัย ส่วนทรัพย์สินที่ได้มานำไปขายต่อให้ร้านรับซื้อหรือร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตามห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต ห้างพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน และขายของกลางผ่านทางออนไลน์ โดยเงินที่ได้มาก็จะนำไปใช้จ่ายและเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบอย่างละเอียดทราบว่านายณัฐวุฒิ ผู้ต้องหาพร้อมกับพวกเคยลงมือก่อเหตุโจรกรรมอุปกรณ์การศึกษาโรงเรียนต่างๆ ในเขต จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ มาแล้วกว่า 20 แห่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 4 ล้านบาท เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สินโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร ก่อนส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป
