ASTVผู้จัดการ - รวบหนุ่มใช้ข้อมูลบัตรเครดิตคนอื่นนำไปซื้อบัตรทรูมันนี่เอารหัสไปขายต่อก่อนเปลี่ยนเป็นเงินสด สารภาพพบประกาศขายข้อมูลบัตรเครคิตผ่านเว็บราคาถูกเลยใช้บริการ ตำรวจเตือนระวัง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รอง ผบช.ก.รร ท.ผบก.ปอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพร แดงดี รอง ผบก.ปอท และเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปอท. ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายสุริยันต์ ชัยสดมภ์ ได้ที่บ้านพักย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากบริษัท อยุธยาแคปปิตอล เซอร์วิสเซล จำกัด ได้เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ว่าถูกคนร้ายซึ่งใช้ข้อมูลบัตรเครดิตของบริษัทที่ออกให้ลูกค้าจำนวน 59 ใบ ไปใช้ชำระหนี้สินบัตรเงินสดทรูมันนี่ จำนวน 2,630 ใบ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.8 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนเพื่อติดตามการกระทำความผิดของคนร้าย กระทั่งสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ดังกล่าว
นายสุริยันต์ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนก่อเหตุดังกล่าวจริงโดยก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพรับทำโฆษณาตามเว็บไซต์มานานกว่า 10 ปี แต่ตนถูกโกงสูญเงินไปหลายแสนบาท ต่อมาตนได้พบว่ามีการประกาศขายข้อมูลบัตรเครดิตของผู้อื่นเกือบทุกธนาคารทั่วโลกผ่านเว็บไซต์จำนวนกว่า 20 ล้านข้อมูล โดยขายในราคาข้อมูลละ 6-20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 210-700 บาท ตนจึงสุ่มเลือกซื้อข้อมูลบัตรเครดิตมาก่อนนำข้อมูลบัตรเครดิตไปซื้อบัตรทรูมันนี่แล้วนำรหัสทรูมันนี่ไปขายต่อเป็นเงินสด สำหรับเงินที่ได้มาจากการกระทำดังกล่าวตนยังไม่ได้นำไปใช้แต่อย่างใด และยินดีจะชดใช้คืนให้ผู้เสียหาย
พล.ต.ต.นรบุญกล่าวว่า ข้อมูลรหัสบัตรเครดิตที่มีการนำมาประกาศขายในเว็บไซต์ที่ผู้ต้องหาได้มานั้น ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากเครือข่ายอาชญากรคอมพิวเตอร์ในต่างประเทศ ที่แฮกข้อมูลจากผู้ใช้งานในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนต่างๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการฝังไวรัสหรือมัลแวร์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ จึงอยากฝากประชาชนว่าควรระมัดระวัง ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ไม่รับอีเมลแปลกหน้าที่ถูกส่งเข้ามายังอีเมลเรา ไม่ดาวน์โหลดข้อมูลแปลกปลอมโดยเด็ดขาด และควรติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสเพื่อปกป้องการถูกฝังไวรัสในการโจรกรรมข้อมูลในระดับหนึ่ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายสุริยันต์ว่าใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด และเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้เพื่อนำตัวไปสวบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป