บุกจับร้านลักลอบขายยาแก้ไอ รวบโจ๋ขณะซื้อตามค้นห้องเจอกระท่อมเพียบ

“ป.ป.ส.- กก.ดส.- อย.” สนธิกำลังบุกจับร้านลักลอบขายยาแก้ไอให้เยาวชน รวบ 2 วัยรุ่นขณะซื้อ ตามค้นห้องพักเจอกระท่อมเป็นกิโล

วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายบัณฑิต ลีลาพตะ พนักงานสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พ.ต.ต.พลจักร บุญนาค สารวัตรสืบสวนกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (สว.สส.กก.ดส.) พร้อมฝ่ายสืบสวน นายประพันธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข บุกเข้าจับกุมร้านหมอยา 24 บริเวณเลขที่ 2/7 ซอยรามคำแหง 24 แยก 12 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. พร้อมของกลางยาแก้ไอ จำนวน 700 ขวด ยาแก้ปวดทรามาดอล 2 กล่อง มี นายธีรวัฒน์ ชูเดช รับเป็นเจ้าของร้าน และยังสามารถจับกุม นายประสิทธิ เหมเดโช อายุ 37 ปี นายเดชาธร ชูสกุล อายุ 20 ปี พร้อมของกลางใบกระท่อมสด จำนวน 1,200 ใบ และใบกระท่อมแห้งบดประมาณ 1 กิโลกรัม

พ.ต.ต.พลจักร กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าร้านขายยาดังกล่าวมีการลอบจำหน่ายยาแก้ไอ ยาแก้ปวด ที่เป็นส่วนผสมยาเสพติด 4 คูณร้อย ให้แก่เยาวชน ส่วนร้านขายข้าวแกงที่ตั้งติดกันลักลอบขายใบกระท่อม ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับเข้าไปลอบซื้อใบกระท่อม พบว่า นายประสิทธิ มีอาชีพขายข้าวแกง พร้อมกับนายเดชาธร กำลังติดต่อซื้อขายอยู่เช่นกัน ต่อมาสายลับเดินเข้าไปซื้อยาแก้ไอจากร้านขายยา โดยทั้ง 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กก.ดส. ที่เฝ้าสังเกตการจึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย และเข้าตรวจค้นร้านขายยา พบยาแก้ไอ และยาแก้ปวดของกลางดังกล่าว จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจค้นห้องพักของนายประสิทธิ เลขที่ 205 อาคารบิลกอเซ็มอพาร์ตเม้นท์ ซอยรามคำแหง 24 แยก 12 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. พบใบกระท่อมบดแห้งอีกจำนวน 1 กิโลกรัม ทางเจ้าหน้าจึงเก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

นายประพันธ์ กล่าวว่า ตามกฎระเบียบแล้ว การขายยาแก้แพ้ และแก้ปวด ซึ่งถือเป็นยาอันตราย ต้องขายโดยเภสัชกรเท่านั้น และห้ามขายยาดังกล่าวแก่เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 17 ปี เนื่องจากหากใช้ยาแก้ปวดดังกล่าวเกินขนาด อาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต และถ้าใช้ยามาในระยะเวลานานจะเกิดการเสพติดยาได้ ดังนั้น ร้านขายยาดังกล่าวมีความผิดฐานขายอันตรายแก่เยาวชน พร้อมทั้งขายยานอกเวลาทำการ และไม่มีประวัติบัญชีการซื้อขายยา ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบต่อว่าทางเภสัชกรประจำร้านมีส่วนเกี่ยวด้วยหรือไม่ หากกระทำผิดจะมีการดำเนินคดีต่อไป

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป