ชุดสืบสวนนครบาล 3 รวบแก๊งต่างชาติสัญชาติโคลอมเบีย ตระเวนก่อเหตุงัดตู้เซฟตามหมู่บ้าน ก่อนนำทรัพย์สินไปขายส่วนตู้เซฟจะนำไปทิ้งในลำคลอง ล่าเพื่อนร่วมแก๊งอีก 4 ราย
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุขพุ่ม รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ ผกก.สน.ฉลองกรุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุง และเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.3 แถลงผลการจับกุม นายมิเกล แอนโตนิโอ (MR.MIGUEL ANTONIO CARO GARCIA) อายุ 51 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.475/2558 และจ.480/2558 พร้อมของกลางนาฬิกาผู้ชายยี่ห้อไซโก้ 1 เรือน อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .357 ลำกล้อง 6 นิ้ว ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน รุ่น 686 จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .22 ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน จำนวน 1 กระบอก และรถยนต์ยี่ห้อมิซูบิชิ สีขาว รุ่นปาเจโร ที่ใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุ 1 คัน จับกุมตัวได้บริเวณพื้นที่ สน.ฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 58 เวลาประมาณ 06.00 น. ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร
ด้าน พล.ต.ต.ฉันทวิทย์กล่าวว่า สืบเนื่องจากคดีเกี่ยวกับตู้เซฟเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี 2557 คดีดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นในย่านหลักสอง มีนบุรี 2-3 ครั้ง ฉลองกรุง 4-5 ครั้ง พฤกติกรรมการก่อเหตุแต่ละพื้นที่จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือ คนร้ายจะเข้าไปในบ้าน โดยจะสังเกตจากประตูหน้าต่างบริเวณบ้านจะปิดสนิท และมีการกดออด หากไม่มีคนออกมาเปิดประตูก็จะเข้าไปก่อเหตุ โดยหลักแล้วคนร้ายจะเฝ้าสังเกตการณ์หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งแล้วอาศัยจังหวะที่มีรถเข้าหมู่บ้าน จะขับตามไปทันที และทำการสำรวจหมู่บ้านซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับบ้านที่มีตู้เซฟ ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมคนร้ายจนพบว่ามีตู้เซฟต้องสงสัยย่านร่มเกล้า 3-4 ตู้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุงได้สืบสวนหาว่ามีการทิ้งตู้เซฟอีกหรือไม่ จึงพบว่ามีการทิ้งตู้เซฟหลายพื้นที่ เชื่อว่าคนร้ายอาจจะอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.อัศวยุทธกล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีเหตุลักทรัพย์ในเคหสถานและมีทรัพย์สินสูญหายไปจำนวนมาก ทาง กก.สส.บก.น.3 และผกก.สน.ฉลองกรุงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย จึงทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติประมาณ 5 คน โดยเข้ามาในประเทศไทยในลักษณะของนักท่องเที่ยว แล้วมาเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งและเช่ารถแวนที่สามารถบรรทุกสิ่งของได้ ติดฟิล์มทึบ จำนวน 1 คัน การก่อเหตุแต่ละครั้งจะเข้าไปดูลู่ทางในหมู่บ้านช่วงเวลาเย็น โดยจะจอดรถบริเวณหน้าหมู่บ้าน แล้วอาศัยจังหวะที่มีรถขับเข้าหมู่บ้านจึงขับตามไป ซึ่ง รปภ.จะไม่ตรวจสอบ พอเข้าไปในหมู่บ้านแล้วพบว่าบ้านหลังไหนที่ไม่มีคนอาศัยอยู่จะเข้าทำการลักทรัพย์ หากพบว่ามีตู้เซฟก็จะยกขึ้นรถไปเลย หลังจากนั้นจะกลับไปยังที่พักและทำการตัดตู้เซฟ เมื่อได้ทรัพย์สินในตู้เซฟแล้วก็จะนำทรัพย์สินต่างๆ ส่งไปที่บ้านเกิดที่ประเทศโคลอมเบีย แล้วจะนำตู้เซฟไปทิ้งไว้ตามสถานที่ต่างๆ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำมาหลายครั้ง คดีที่เด่นชัดคือเมื่อวันที่ 2 พ.ค ก่อเหตุในหมู่บ้านแฮปปี้เพลส ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 537,000 บาท และวันที่ 12 พ.ค. ก่อเหตุในหมู่บ้านชัยพฤกษ์ 1 ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 1,600,000 บาท และครั้งที่ 3 คนร้ายพบว่ามีอาวุธปืนภายในตู้เซฟจึงนำไปทิ้งในลำคลองบริเวณถนนร่มเกล้า แต่เจ้าหน้าที่สามารถนำกลับคือมาได้ในที่สุด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอีก 4 คน มาดำเนินคดี ประกอบด้วย MR.ISALAS CUERVO CARDENAS อายุ 27 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ,MR.JOES JEN POUL CUERVO CARDENAS อายุ 20 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ,MR.JHON(FREDY ESPINOSA CUERVO) อายุ 30 ปี สัญชาติโคลอมเบีย และ MR.FABIO(ANDREA CUERVO CARDENAS) อายุ 34 ปี สัญชาติโคลอมเบีย ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นไปดีวยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจรต่อไป