“ทนายสงกานต์” นำข้าราชการครูหอบเอกสารร้องอธิบดีดีเอสไอตรวจสอบโครงการ ช.พ.ค.โปร่งใสหรือไม่ หลังพบพิรุธเรียกเก็บเบี้ยประกันสินเชื่อล่วงหน้า 9-10 ปี แต่กลับเป็นประกับอุบัติเหตุและไม่ส่งมอบกรมธรรม์แก่ผู้เอาประกัน เผยครูเข้าร่วมโครงการนี้กว่า 150,000 ราย วงเงินรวมประมาณ 4,000 ล้านบาท
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 12.00 น. นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นำข้าราชครูประมาณ 30 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค) กับธนาคารในการกำกับของรัฐแห่งหนึ่งและบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง รวมทั้งต้นสังกัดของโครงการสินเชื่อ ช.พ.ค.ว่าร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จในการปกปิดความจริงที่ควรแจ้ง และมีความผิดฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนหรือไม่
นายสงกานต์กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากข้าราชการครูทั่วประเทศ ผ่านตู้ ปณ.63 ราษฎร์บูรณะ กทม.10140 ให้ช่วยตรวจสอบโครงการ ช.พ.ค.ว่าโปร่งใส่หรือไม่ ภายหลังมีธนาคารในการกำกับรัฐแห่งหนึ่งที่เป็นผู้ให้กู้เงินในโครงการ ช.พ.ค. แล้วบังคับให้ครูผู้กู้ซื้อประกันสินเชื่อจากวงเงินที่กู้ โดยเรียกเก็บเบี้ยประกันล่วงหน้า9-10ปีและหักเงินจากยอดที่กู้ แต่เมื่อตรวจสอบไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งเลขาธิการ คปภ.ระบุว่าบริษัทประกันภัยดังกล่าวเคยมาขอความเห็นชอบในการคิดเบี้ยประกันระหว่าง 9-10 ปีแต่เป็นการประกันอุบัติเหตุ ไม่ใช่ประกันสินเชื่อตามที่ได้จดแจ้งไว้แก่ผู้กู้หรือผู้เอาประกันแต่อย่างใด อีกทั้งไม่มีการส่งมอบกรมธรรม์ใดๆ แก่ผู้เอาประกัน เบื้องต้นมีเข้าร่วมโครงการดังกล่าวกว่า 150,000 ราย วงเงินรวมประมาณ 2,000-4,000 ล้านบาท จึงอยากให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปตรวจสอบ พร้อมจับคนผิดมาลงโทษ
ด้าน น.ส.หมูน้อย (นามสมมติ) ตัวแทนข้าราชการครูผู้เสียหายรายหนึ่ง เผยว่า ตนกู้เงินจาก ช.พ.ค.จำนวน 800,000 บาท โดยมีธนาคารออมสินเป็นผู้ปล่อยกู้ และทำสัญญาผ่อนใช้คืนเป็นเวลา 10 ปี ทั้งนี้ต้องทำประกันสินเชื่อเงินกู้ด้วย ตนก็ทำประกันไปเห็นว่ามีประโยชน์ หากผู้กู้เสียชีวิตทางบริษัทประกันภัยจะชดใช้หนี้คืนให้ ช.พ.ค. จะได้ไม่ลำบากครอบครัวมาใช้หนี้ต่อ โดยบริษัทประกันของธนาคารออมสินได้คิดเบี้ยประกันไป 40,000 บาท แต่ไม่มีกรมธรรม์มอบให้ ต่อมาทราบจาก คปภ.ว่าเป็นประกันอุบัติเหตุ และเบี้ยประกันเพียง 1,000-2,000 พันบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวมีครูทั่วประเทศกู้เงิน ช.พ.ค.จำนวนมาก และเงินส่วนต่างหลักหมื่นถึงหลักแสนที่หักไปนั้นใครได้ไป
ด้านนางสุวณากล่าวว่า หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณา ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณี สกสค.นำเงินโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 2,100 ล้านบาท ไปลงทุนกับบริษัทเอกชนซึ่งมีการระบุว่าเป็นการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ด้วย