“ทนายสงกานต์” ระบุศาลให้ “อ.แก้วสรร-ตำรวจเพชรเกษม-หญิงผู้เสียหาย” เบิกความเป็นพยานไต่สวนคดี แม่ผู้เสียหายถูกข่มขืนบนโรงพักเบิกความเท็จ พร้อมเตรียมนำบันทึกถอดเทปคำรับสารภาพเป็นหลักฐานใหม่ขอรื้อฟื้นคดีอีกครั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ ด.ต.นุโลม แอ๊ดมา และ ด.ต.ภัสทสิทธิ์ หรือมงคล โททอง อดีตตำรวจ สน.เพชรเกษม เดินทางมารับหมายเรียกไต่สวนพยาน คดีหมายเลข อ.3966/2557 ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางอรวรรณ แววคุ้ม จำเลยซึ่งเป็นมารดา น.ส.เอ (นามสมมุติ) หญิงผู้เสียหายคดีข่มขืนกระทำชำเรา ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ เพื่อที่จะกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญาและเบิกความเท็จ
นายสงกานต์ ทนายความเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2557 ได้ยื่นฟ้องนางอรวรรณ แววคุ้ม ความผิดฐานแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ อันเกี่ยวเนื่องทำให้ ด.ต.นุโลม แอ๊ดมา และด.ต.ภัสทสิทธิ์ ถูกดำเนินคดีและศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 20 ปี ภายหลังนางอรวรรณ แววคุ้ม และบุตรสาวอายุ 16 ปี (ขณะนั้น) ผู้เสียหายคดีข่มขืนบนโรงพัก ได้ยอมรับสารภาพว่าสร้างเรื่องขึ้นมาโดยไม่เป็นความจริง เพื่อต้องการที่จะให้บุตรสาวที่ถูกตำรวจ สน.เพชรเกษมจับกุมคดีเสพยาเสพติดได้รับโทษเบาลง ซึ่งศาลอาญามีคำสั่งให้ออกหมายเรียกพยานบุคคลจำนวน 5 ปากมาไต่สวนมูลฟ้องคดี ประกอบด้วย 1. นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต ส.ว.กทม. 2. พ.ต.ท.นครินทร์ งามถ้อย อดีต สว.สส.สน.เพชรเกษม ปัจจุบันเป็นรอง ผกก.สน.บางเสาธง 3. บุตรสาวจำเลย ที่เป็นผู้เสียหายคดีข่มขืนบนโรงพัก 4. ด.ต.นุโลม แอ๊ดมา และ 5. ด.ต.ภัสทสิทธิ์ หรือมงคล โททอง โดยให้เบิกตัวมาจากเรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อเบิกความต่อศาลในวันที่ 16 ก.พ.นี้ เวลา 09.30 น.
นายสงกานต์กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ขอให้นำพยานทั้ง 5 ปากดังกล่าวมาเบิกความ เนื่องจากคดีนี้เรามีพยานหลักฐานใหม่เป็นบันทึกคำถอดเทปคำให้การรับสารภาพของนางอรวรรณ แววคุ้ม และบุตรสาว เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นคำให้การต่อหน้านายแก้วสรร และ พ.ต.ท.นครินทร์ซึ่งขณะนั้นเป็นตำรวจ สน.เพชรเกษม ทั้งนี้เห็นว่าเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงแล้วว่า ด.ต.นุโลม และด.ต.ภัสทสิทธิ์ ไม่ได้การกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะนำหลักฐานนี้ไปยื่นต่อศาลอาญาเพื่อขอรื้อฟื้นคดีที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุก 20 ปี ตำรวจทั้งสองนาย คดีกระทำชำเราหญิงอายุไม่เกิน 18 ปีต่อไป ก่อนหน้านี้เรายังไม่ได้นำบันทึกคำถอดเทปมายื่นต่อศาล เนื่องจากได้ให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการและให้พยานทั้ง 5 รายลงลายมือชื่อรับรอง แต่ปรากฏว่าดำเนินการเสร็จไม่ทัน แต่ตอนนี้พยานหลักฐานในส่วนนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ภายหลังขอรื้อฟื้นคดีแล้วอาจจะยื่นศาลอาญาขอรวมคดีอีกด้วย
“บันทึกคำถอดเทป คือหลักฐานใหม่ที่เราจะนำมายื่นต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณาขอรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ที่สำคัญเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังและมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เป็นเหตุให้ดาบตำรวจทั้งสองนายถูกดำเนินคดีอาญาซึ่งตำรวจที่เกี่ยวข้องเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยอยู่ แต่เราก็มีพยานหลักฐานแล้ว เราได้แจ้งความไว้ที่กองปราบปราม ขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ แต่เพื่อไม่ให้เสียรูปคดี ยืนยันว่ามีนายตำรวจเกี่ยวข้องไม่ถึง 2 นาย และจากการกล่าวหาดาบตำรวจดังกล่าวยังทำให้ชื่อเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจ สน.เพชรเกษมได้รับความเสียหาย” ทนายสงกานต์กล่าว