xs
xsm
sm
md
lg

พ่อเลี้ยงผู้ต้องหา “ยูฟัน” นำรถส่งมอบตำรวจ ยันไม่เกี่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTVผู้จัดการ - พ่อเลี้ยงผู้ต้องหาคดี “ยูฟัน” นำรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มามอบให้ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เผยไม่เคยทราบลูกเลี้ยงทำงานอะไร ที่ผ่านมาไม่ได้ให้อะไรแค่ซื้อรถไว้ให้คันเดียวเพื่อพาแม่ไปหาหมอ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (11 พ.ค.) นายบรรจบ ยุโย อายุ 54 ปี ได้เดินทางนำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กล 3728 กรุงเทพมหานคร มามอบให้ พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. ซึ่งรถคันดังกล่าวจดทะเบียนโดยใช้ชื่อของ น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้

นายบรรจบกล่าวว่า วันนี้ตนนำรถมามอบให้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และอยากจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง น.ส.ณมนพรรณ์ซื้อรถไว้ให้เมื่อปลายปีที่แล้วเพื่อพาแม่ไปหาหมอ เนื่องจากระยะหลังแม่ของ น.ส.ณมนพรรณ์ป่วย ตนไม่เคยรู้ว่าลูกเลี้ยงทำงานอะไร นานๆ จะแวะมาหาแม่สักครั้ง นอกจากรถคันนี้แล้วก็ไม่ได้ซื้ออย่างอื่นให้ ที่ผ่านมา น.ส.ณมนพรรณ์ก็ส่งเงินให้แม่บ้างครั้งล่ะ 10,000-20,000 บาท

พ.ต.อ.อังกูรกล่าวว่า วันนี้นายบรรจบพ่อเลี้ยงของ น.ส.ณมนพรรณ์ได้นำรถคันดังกล่าวซึ่ง น.ส.ณมนพรรณ์ซื้อเอาไว้ให้เมื่อปลายปีที่แล้วมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องในเครือข่ายยูฟัน ตนอยากจะขอขอบคุณนายบรรจบ เพราะไม่เช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องสืบหาอีกนานกว่าจะพบ โดยนายบรรจบได้รู้จักกับครอบครัวของ น.ส.ณมนพรรณ์มากว่า 11 ปีแล้ว มีความสนิทสนมคุ้นเคยกันดี นายบรรจบและแม่ของ น.ส.ณมนพรรณ์มีอาชีพทำการเกษตร เมื่อไหร่ที่มีปัญหาก็จะขอให้ น.ส.ณมนพรรณ์ส่งเงินมาให้บ้าง

ส่วนรถยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ อีก 2 คัน นั้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนว่าใครเป็นผู้ครอบครอง อย่างไรก็ดี อยากจะฝากไปถึงทุกคนที่มีการถ่ายเททรัพย์ไปก็ขอให้แจ้งเข้ามาเพื่อให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมืนนายบรรจบ ไม่เช่นนั้นหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบอาจจะมีความผิดได้ ในกรณีของนายบรรจบนั้นถือว่าไม่มีความผิด ซึ่งต้องแยกเป็นกรณีไปว่าได้ทรัพย์มาอย่างไร ถ้ากรรโชกมาถือฐานความผิดหนึ่ง ดูเป็นกรณีไปว่าเป็นความผิดฐานใด ฝากแบบไหน ฝากโดยความสมัครใจหรือไม่

สำหรับเรื่องของสำนวนคดีนั้น ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังรับแจ้งความอยู่ หากเจ้าหน้าที่ทำสำนวนเสร็จแล้วก็จะต้องหยุดการรับแจ้งความ แต่ถ้ายังมีผู้มาแจ้งความอีกก็ต้องแยกไปทำสำนวนใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วอยากจะให้อยู่ในสำนวนเดียวกันมากกว่าเพื่อจะได้ส่งฟ้องภายในเดือน พ.ค.นี้ในครั้งเดียว












กำลังโหลดความคิดเห็น