“เมเปิ้ล แม็กซิม” และนักแสดงจากละคร “ซารางเฮ รักหมดใจ” แจ้งจับผู้จัดละคร เบี้ยวค่าตัว หลังละครออนแอร์จบแล้วแต่ยังไม่รับค่าจ้าง ยอดเสียหาย 2 ล้านบาท
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.พัชชุดาญ์ พันธุ์พิพัฒน์ หรือ เมเปิ้ล แม๊กซิม นายประภาส ภุมมะดิลก ผู้กำกับ น.ส.นันทรัตน์ ชาวราษฎร์ และนักแสดงจากละคร “ซารางเฮ รักหมดใจ” เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท โชติแอสเซ็ท จำกัด และ น.ส.จิดาภา นามโชติหิรัญ ซึ่งเป็นผู้จัดละครดังกล่าว หลังไม่ได้รับค่าตัวตามที่ตกลงกันไว้ยอดเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท
น.ส.พัชชุดาญ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้รับการว่าจ้างจากบริษัทดังกล่าวให้มาแสดงละครเรื่องซารางเฮ รักหมดใจ โดยเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 และละครออนแอร์เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2557 ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 17 จนกระทั่งละครออนแอร์จบไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระหว่างที่ถ่ายทำตนและทีมงานนักแสดงบางคนก็ไม่ได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ตาม ละครเรื่องนี้ก็ได้มีการไปถ่ายทำที่ประเทศเกาหลี ซึ่งระหว่างถ่ายทำก็มีปัญหากันตั้งแต่ตอนแรก โดย กอล์ฟ-พิชญะ แพมแพม-ดาราธิป รวมไปถึง คิตตี้-ชิชา และ ภีม-ภาคิน ได้ถอนตัวออกไป ทำให้ละครเรื่องนี้ต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงใหม่ทั้งเรื่อง
น.ส.พัชชุดาญ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางผู้จัดละครนัดหมายว่าจะจ่ายเงินค่าตัวเป็นจำนวน 2 แสน ในวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ได้ยืดเวลาผ่อนผันให้ถึงวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลานัดหมาย ก็ได้ติดต่อไปยังผู้จัดละคร แต่เขากลับปิดเครื่องหนี จากนั้นเขาก็อ้างว่าตนได้ออกจากกองถ่ายละครกลางคัน จึงไม่มีการจ่ายค่าตัวให้ ซึ่งความเป็นจริงแล้วก่อนหน้านี้ตนได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าโดนทางกองถ่ายละครเรื่องนี้เบี้ยวค่าตัว
“ในช่วงที่มีปัญหากันนั้น ทางเขาได้บอกกับหนูว่าไม่ต้องมาถ่ายละครแล้ว เพราะรับไม่ได้ที่หนูเป็นคนก้าวร้าว ทำให้ทางผู้จัดละครเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งหนูเห็นว่าเห็นข้ออ้างเขาเท่านั้น จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความดังกล่าว เพราะไม่อยากให้เขาไปหลอกลวงดาราคนอื่นอีก” เมเปิ้ล แม็กซิม กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้ ร.ต.ท.ปรีชา ศรีอุดม พนักงานสอบสวน กก. 1 บก.ป.รับเรื่องไว้ ก่อนทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด จากนั้นจะเรียกทางผู้จัดละครมาทำการสอบปากคำหากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป