ดีเอสไอขีดเส้น “ธัมมชโย” ต้องมาให้ปากคำด้วยตัวเองคดีสหกรณ์ฯ

ดีเอสไอขีดเส้น “ธัมมชโย” ต้องมาให้ปากคำด้วยตัวเองในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น คาดจะสอบปากคำเสร็จก่อนสงกรานต์นี้แน่นอน

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 1 ชั้น 8 ศูนย์ราชการอาคารบี นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นประธานประชุม “ติดตามผลคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น” ครั้งที่ 7/2558 โดยมี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงษ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ผอ.ส่วนตรวจ 2 สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ ดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ พร้อมชุดติดตามร่วมประชุมความคืบหน้า

ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่ห้องแถลงข่าวชั้นที่ 1 ดีเอสไอ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ผอ.ส่วนตรวจ 2 สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ และศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ ดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ แถลงผลประชุมคดี

พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวว่า ช่วงเช้า ปปง.เดินทางไปยึดทรัพย์ผู้ที่น่าเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นทราบว่าทำการยึดบ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ และจักรยานยนต์บิ๊กไบค์

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมติดตามผลคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ครั้งที่ 7/2558 อธิบดีดีเอสไอ ได้เน้นย้ำในเรื่อง 1. การไล่ตรวจสอบเอกสาร 2. การไล่ตรวจสอบบัญชี และ 3. ดูกฎหมายและกฎระเบียบของสหกรณ์ นอกจากนี้ อธิบดีดีเอสไอ บอกในที่ประชุมว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้สั่งการเน้นย้ำว่าให้ทำคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นให้สำเร็จจะได้เป็นตัวอย่างเป็นกรณีศึกษาในการทำคดีเกี่ยวกับสหกรณ์ต่อไป รวมทั้งจะได้วางมาตรการหรือแก้กฎหมายสหกรณ์เพื่อป้องกันการฉ้อโกงหรือยักยอกทรัพย์ด้วย

ด้าน พ.ต.ท.ปกรณ์เผยว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา พระมหาบุญชัย จารุทัตโต ผอ.ฝ่ายการเงินและบัญชีวัดพระธรรมกาย นำหลักฐานเข้าชี้แจงกับพนักงานสอบสวน เรื่องการรับเช็ค 15 ฉบับจากนายศุภชัย โดยแจ้งว่ารับมาเช็คเพียง 13 ฉบับเท่านั้น ส่วนเช็คอีก 2 ฉบับไม่ได้รับ เบื้องต้นเช็ค 13 ฉบับที่พระมหาบุญชัยนำมาให้ ตรงกับเอกสารหลักฐานที่พนักงานสอบสวนมี ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งให้พระมหาบุญชัยกลับไปวัดพระธรรมกายเพื่อไปตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งดีเอสไอยังไม่ได้กำหนดวันที่จะพระมหาบุญชัยจะมาพบ

สำหรับการตรวจสอบเช็คทั้งหมดนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะทำงานร่วมกับฝ่ายการเงินและการบัญชีสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าตรงกันหรือไม่

“ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบนิติบุคคลที่ได้รับเช็คจากนายศุภชัยไปแล้วกว่า 30 ราย จากทั้งหมด 43 ราย คาดว่าจะสอบปากคำเสร็จก่อนสงกรานต์นี้แน่นอน หลังจากนั้นจะทำการตัดเช็คจำนวนกว่า 200 ฉบับที่โอนไปให้นิติบุคคล ออกจากเช็คทั้งหมดจำนวน 878 ฉบับ ก่อนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ และขอยืนยันว่าพระธัมมชโยจำเป็นต้องมาให้ปากคำให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง” พ.ต.ท.ปกรณ์กล่าว

พ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า ดีเอสไอมีหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงและแสวงหาหลักฐานมาประกอบสำนวน ในส่วนกรณีพระธัมมชโยได้แจ้งว่าป่วยไม่สามารถมาให้ปากคำพนักงานสอบสวนได้นั้น จริงๆ แล้วท่านควรจะมาให้ปากคำด้วยตัวเอง เพราะเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อพี่น้องประชาชนด้วย หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังประสานงานวัดพระธรรมกายให้พระธัมมชโยมาสอบปากคำอีก แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าวันไหน