เปิดตัว “ผู้กำกับอ้วน” เจ้าของคลิปแรมโบ้สีกากีท้าโจรปล้นร้านทอง เปิดใจทุกแง่มุมเพื่อปลุกตำรวจให้ลุกขึ้นสู้โจร แฉมือปืน หรือบรรดาโจรห้าร้อยแห่งภาคใต้ส่วนใหญ่อยู่ในเงานักการเมือง ยันไม่ได้ท้าทายแต่เป็นการปราม หากไม่เชื่อเจอดีแน่ เผยพกปืนครั้งละครึ่งโหล ทั้งลูกซอง ปืนกล และปืนจิ๋วเป็นเสือซ่อนเล็บ หลังปล่อยคลิปเพียง 2 วันมีประชาชนแห่กดถูกใจกว่า 2 หมื่น
นาทีนี้ต้องยกให้ “แรมโบ้สีกากี” พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง หรือ “ผู้กำกับอ้วน” เจ้าของคลิปสะพายปืนกลไปจับโจรปล้นร้านทอง โดยเจ้าตัวบอกว่าหลังปล่อยคลิปเพื่อปรามโจร และให้กำลังใจนายตำรวจรุ่นพี่ ปรากฏว่ามีตำรวจน้อยใหญ่รวมถึงประชาชนทั่วไปกดไลก์มาให้กำลังใจกว่า 2 หมื่นครั้งแถมยังมีโทรศัพท์เข้ามาทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักจนแทบไม่ได้หลับนอน
“ผู้กำกับอ้วน” ถึงกับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากทันทีเมื่อ “ทีมข่าวอาชญากรรม ASTV ผู้จัดการ” แจ้งว่าคลิปดังกล่าวกำลังฮือฮาในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก ก่อนสนทนาถึงความเป็นมาว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์โจรบุกปล้นร้านทองห้างมนตรี 2 ถนนสงขลา-ระโนด จ.สงขลา พื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ระโนด เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาซึ่งในคราวนั้นมีประเด็นต่างๆ แสดงถึงความอุกอาจ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย รวมทั้งทำให้เกิดบรรยากาศหวาดกลัวในกลุ่มร้านค้าทองของจังหวัดสงขลาทุกแห่ง พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.จ.สงขลา จึงส่งให้นายตำรวจระดับ ผกก.ทุกนายลงพื้นที่ ทำอย่างไรก็ได้ทั้งในเรื่องป้องกันและการสร้างขวัญกำลังใจ
“ผมรับนโยบายปุ๊บพอลงจากเครื่องก็สั่งให้ลูกน้องขับรถไปร้านทองในท้องที่ทันที ก็คิดเดี๋ยวนั้นทำเดี๋ยวนั้น เพราะปืนของผมมีหลายกระบอก เอาติดตัวไปทุกครั้ง พอถึงร้านทองก็หอบเอาไปทุกกระบอก มีลูกซองปราบจลาจล 1 ปืนกลขนาด 9 มม. 2 กระบอกปืน M1 หนึ่งกระบอก และขนาด 11 มม.อีก 1 กระบอก จริงๆ แล้วผมยังมีปืนวอลเทอร์ .380 หรือปืนเจมส์ บอนด์ กระบอกสุดท้าย เผื่อเหลือเผื่อขาดพกอยู่กระเป๋ากางเกงด้วย แล้วก็แขวนไหล่แขวนคออย่างที่เห็นในคลิป น้ำหนักร่วม 20 กว่ากิโลฯมั้ง ผมไม่ได้ท้าทายโจรนะ แต่ปรามให้มันเกรงกลัวกฎหมาย เกรงกลัวตำรวจบ้าง ร้านทองที่ไปถ่ายเขาเคยถูกปล้นไปเมื่อปี 51 เราก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ก็ทำไปตามความคิดแวบเดียวจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจกันขนาดนี้”
“ผู้กำกับอ้วน” ยังบอกด้วยว่า เขาเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 41 เส้นทางรับราชการส่วนมากอยู่ในพื้นที่โจร ทั้งนั้นและวนเวียนอยู่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 โดยตลอดตอนเป็น ผกก.เริ่มต้นที่หน่วยปราบจลาจล (ปจ.) ภาค 9 เป็น ผกก.เมืองพัทลุง ซึ่งถือเป็นพื้นที่ชุมโจรหลากก๊ก เป็น ผกก.ป่าบอน ก่อนมาเป็น ผกก.คลองหอยโข่ง ประมาณ 2 เดือนเศษ ในพื้นที่คลองหอยโข่ง มีร้านทองเพียง 2 ร้าน แต่อยู่จุดเสี่ยง ใกล้ถนนแ ต่ภูมิประเทศภาคใต้ทั่วไปมีป่าเขาลำเนาไพร ถือว่าเป็นใจให้แก่โจรมาก
“ที่ระโนดมีร้านทอง 12-13 ร้าน มีความเสี่ยงมากที่สุด แต่ขึ้นชื่อว่าโจรถ้ามีโอกาสมันเอาทั้งนั้น ของผมมีแค่ 2 ร้านแต่ก็เคยมีประวัติถูกปล้น คือผมไม่ได้ท้าทายโจรนะ มีคนแซวว่าถ้าโจรมันยกโขยงมาจริงๆ จะทำไง ผมก็เอากับมันสิ ถล่มกันไปเลย แต่คงไม่เหมือนกับหนัง พวกนี้มันมาตอนตำรวจเผลอ เราก็อย่าไปเผลอ ผมมีมาตรการป้องกันทุกอย่าง ทั้งตู้แดง จุดตรวจ ตั้งด่านกับการซุ่มโป่ง ตอนนี้กำลังมีโครงการเชิญเจ้าของร้านทองที่สนใจมาฝึกใช้อาวุธปืน
ผมไม่ได้คุยนะเรื่องปืนนี่มีสะสมอยู่ประมาณ 10 กระบอก คือชอบเล่นปืนและชอบยิงปืน ผมเป็นคนยิงปืนแม่น เคยฝึกลูกน้องมาหลายรุ่นแล้ว เรื่องความชอบปืนนี่ถ้าชอบอะไรก็ซื้อไว้หมดขนาดว่าตอนนี้ยังผ่อนสหกรณ์ไม่หมด” ผกก.คนดังคุยกลั้วเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตลอดเวลา
ตอนท้าย ผกก.อ้วน ยังฝากขอบคุณพี่น้องตำรวจและประชาชนที่ให้กำลังใจ ส่วนที่ติติงหรือแซวว่าเป็น “ของแปลก” อีกคนในยุคคืนความสุข เจ้าตัวบอกว่ายินดีน้อมรับคำติชมทุกอย่าง แต่ก็อยากฝากไปถึงสังคมว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นที่สุดแล้วตำรวจก็คือคนที่ต้องรับผิดชอบตนจึงต้องทำทุกวิถีทางเพราะการเป็นตำรวจไปกลัวโจรไม่ได้ เป็นตำรวจกลัวโจรก็ไม่ต้องเป็น
อีกทั้งการอยู่ในพื้นที่ภาคใต้มาเป็นเวลานานทำให้ทราบว่าบรรดาซุ้มมือปืน บรรดาโจรห้าร้อยทั้งหลายไม่พ้นอยู่ในเงาของนักการเมือง “มันก็คือโจรใกล้ตัว” พอเผลอก็ออกอาละวาด อีกตัวอย่างที่เกิดในพื้นที่ สภ.ระโนด ผมเห็นใจ พ.ต.อ.อรุณ กุลสิรวิชย์ ผกก.นายตำรวจรุ่นพี่มาก ท่านก็ทำงานอย่างสุดความสามารถแต่ก็มีวันพลาด
“สิ่งที่ทำลงไปในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและข่มโจรแล้ว ก็ยังแสดงเป็นสัญลักษณ์ให้แก่ตำรวจทุกคนลุกขึ้นสู้กับโจร รวมทั้งให้กำลังใจ ผกก.ระโนด ด้วย” แรมโบ้อ้วนกล่าว
