“สมยศ” ยันพบระเบิดใกล้ที่ประชุม ครม.สัญจร แค่คนกลัวความผิดนำมาทิ้ง ปล่อยพนักงานสืบสวนสอบสวนทำงานเต็มที่ ไม่กดดันเรื่องเวลาหรือเร่งรัดตามกระแส เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ยังตอบไม่ได้เชื่อมโยงหน่วยราชการใดหรือไม่
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่พบระเบิดและอาวุธสงครามจำนานมากถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณป่าละเมาะที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้กับสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรปลายเดือนนี้ว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ว่าชาวบ้านไปพบระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ในป่า ส่วนสาเหตุที่พบน่าจะมาจากกรณีที่ทหารและตำรวจเข้มงวดในการตั้งด่าน หรือระดมกวาดล้างอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ครอบครองอาจจะกลัวความผิดจึงนำไปซุกซ่อน สำหรับแหล่งที่มาของวัตถุระเบิด ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ สืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นพอทราบที่มาของวัตถุระเบิดดังกล่าวแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้กำชับให้ ผบช.ภ.7 แจ้งพนักงานสืบสวนให้ดำเนินการตามขั้นตอนให้ละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้ให้ตรวจสอบหรือดำเนินการด้วยความรอบคอบ ไม่ต้องรีบร้อน เพราะการรีบร้อนหรือเร่งรัดตามกระแส อาจนำมาซึ่งความผิดพลาดบกพร่องได้ ดังนั้นตนจะไม่กวดขันว่าต้องเวลานั้นเวลานี้ ขอให้ทำไปตามกฎหมายและพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดได้
เมื่อถามว่า อาวุธสงครามที่พบนั้นจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับหน่วยราชการใดหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ผลเป็นประการใดคงรายงานให้ตนทราบในภายหลัง
เมื่อถามว่า มองว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อไม่ให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มี ตนเชื่อว่าคนที่มีหรือครอบครองอยู่กลัวจะถูกจับ เนื่องจากการเข้มงวดกวดขัน กดดันในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อมตรวจค้น ระดมกวาดล้างหรือตั้งด่าน ทำให้คนที่ครอบครองอยู่นำมาทิ้งเพื่อที่จะได้รอดพ้นจากการจับกุม
เมื่อถามถึงการวางมาตรการหรือเพิ่มความดูแลความปลอดภัยของการประชุม ครม. พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมากวดขันหรือเข้มงวดในการประชุม ครม. เพราะเป็นนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และของรัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งการเข้มงวดกวดขันมีมาตั้งนานแล้ว มีตั้งแต่เกรงว่าจะเกิดเหตุความรุนแรง ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศและภายในประเทศ ก็ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่มีการประชุม ครม.สัญจร
“การวางมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุม ครม.สัญจรคงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะที่มีอยู่ก็เข้มข้นอยู่แล้ว และที่ทำไม่ใช่แค่เรื่องการประชุม ครม.สัญจร แต่ทำเพื่อความมั่นใจ อุ่นใจ ของพี่น้องประชาชนมากกว่า”
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่พบระเบิดและอาวุธสงครามจำนานมากถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณป่าละเมาะที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้กับสถานที่จัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรปลายเดือนนี้ว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ว่าชาวบ้านไปพบระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ในป่า ส่วนสาเหตุที่พบน่าจะมาจากกรณีที่ทหารและตำรวจเข้มงวดในการตั้งด่าน หรือระดมกวาดล้างอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ครอบครองอาจจะกลัวความผิดจึงนำไปซุกซ่อน สำหรับแหล่งที่มาของวัตถุระเบิด ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ สืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นพอทราบที่มาของวัตถุระเบิดดังกล่าวแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้กำชับให้ ผบช.ภ.7 แจ้งพนักงานสืบสวนให้ดำเนินการตามขั้นตอนให้ละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้ให้ตรวจสอบหรือดำเนินการด้วยความรอบคอบ ไม่ต้องรีบร้อน เพราะการรีบร้อนหรือเร่งรัดตามกระแส อาจนำมาซึ่งความผิดพลาดบกพร่องได้ ดังนั้นตนจะไม่กวดขันว่าต้องเวลานั้นเวลานี้ ขอให้ทำไปตามกฎหมายและพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดได้
เมื่อถามว่า อาวุธสงครามที่พบนั้นจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับหน่วยราชการใดหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ผลเป็นประการใดคงรายงานให้ตนทราบในภายหลัง
เมื่อถามว่า มองว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อไม่ให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มี ตนเชื่อว่าคนที่มีหรือครอบครองอยู่กลัวจะถูกจับ เนื่องจากการเข้มงวดกวดขัน กดดันในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อมตรวจค้น ระดมกวาดล้างหรือตั้งด่าน ทำให้คนที่ครอบครองอยู่นำมาทิ้งเพื่อที่จะได้รอดพ้นจากการจับกุม
เมื่อถามถึงการวางมาตรการหรือเพิ่มความดูแลความปลอดภัยของการประชุม ครม. พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมากวดขันหรือเข้มงวดในการประชุม ครม. เพราะเป็นนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และของรัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งการเข้มงวดกวดขันมีมาตั้งนานแล้ว มีตั้งแต่เกรงว่าจะเกิดเหตุความรุนแรง ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศและภายในประเทศ ก็ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่มีการประชุม ครม.สัญจร
“การวางมาตรการรักษาความปลอดภัยการประชุม ครม.สัญจรคงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะที่มีอยู่ก็เข้มข้นอยู่แล้ว และที่ทำไม่ใช่แค่เรื่องการประชุม ครม.สัญจร แต่ทำเพื่อความมั่นใจ อุ่นใจ ของพี่น้องประชาชนมากกว่า”