xs
xsm
sm
md
lg

ตร.กำชับเฝ้าระวังการค้าน้ำมันเถื่อน 38 จุดส่งจเรสอบรายชื่อ ตร.เอี่ยวผลสินบน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
“เรืองศักดิ์” เอาจริงกำชับปราบปรามน้ำมันเถื่อนทั่วประเทศ 38 จุดเสี่ยง - จเรตำรวจเร่งสอบตำรวจรายชื่อตำรวจรับผลประโยชน์คาด 4-5 วันรู้ผล

วันนี้ (20 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ปนม.ตร.) เรียกประชุมชุดปฏิบัติการ และหน่วยงานสมทบทั่วประเทศ ประกอบด้วยกองทัพเรือ, กรมศุลกากร, กรมสรรพสามิต และกรมธุรกิจพลังงาน ตลอดจนหน่วยงานจเรตำรวจ ร่วมประชุมหารือเพื่อเพิ่มความเข้มในการปราบปราม และกำชับในการห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวว่า ตนได้สั่งกำชับเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (น้ำมันเถื่อนและก๊าซปิโตรเลียมเหลว) ทั่วประเทศ ทั้งทางบกทางน้ำโดยเฉพาะทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน รวม 38 จุด แบ่งเป็น น้ำมันเชื้อเพลิง 28 จุด เช่น บช.น.พื้นที่ บก.น.5 (บริเวณพื้นที่บางนา และถนนพระราม 3) พื้นที่ บก.น.9 (ถนนเอกชัย-บางบอน) บช.ภ.1 พื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บช.ภ.2 พื้นที่ อ.เมือง จ.ระยอง อ.คลองใหญ่ จ.ตราด พื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อ.เมือง บช.ภ.8 พื้นที่ อ.เมือง จ.กระบี่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.ภูเก็ต อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และพื้นที่ที่น่าจับตาคือ บช.ภ.9 พื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา อ.ควนโดน จ.สตูล และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี

ขณะที่การลักลอบนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว 10 จุด ประกอบ อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.แม่สาย จ.เชียงราย, อ.เชียงคาน จ.เลย, อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย, อ.เมือง จ.มุกดาหาร, อ.เมือง จ.บึงกาฬ, อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์, อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ อ.เมือง จ.ระนอง

พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวด้วยว่า ได้กำหนดมาตรการเข้ม โดยได้กำชับให้ตรวจสอบทั้ง 38 จุดเป็นจุดเฝ้าระวังพิเศษเพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกำชับให้ผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่งกำหนดมาตรการ วิธีการ ในการป้องกันปราบปรามให้ชัดเจน และระดมตำรวจในพื้นที่เฝ้าระวัง หากพบการกระทำความผิดให้ทำการจับกุมปราบปรามให้บังเกิดผลอย่างจริงจังและที่สำคัญให้ถือเป็นตัวชี้วัดในการปฏิบัติงานของแต่ละหัวหน้าสถานีตำรวจรับผิดชอบร่วมกันกับชุดปฏิบัติการ ปนม.ทั้ง 36 ชุดด้วย หากมีการปล่อยปละละเลยเพิกเฉยหรือถึงขั้นเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ หากมีหลักฐานเพียงพอ จะพิจารณาข้อบกพร่องทั้งทางการปกครอง ทางวินัยหรือถึงขั้นอาญาตามข้อเท็จจริงแต่ละกรณีทันที โดยให้หน่วยจเรตำรวจออกตรวจตราสืบสวนตรวจสอบอย่างจริงจังด้วยอีกทางหนึ่งควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจาก “สายลับภาคประชาชน” ในการแจ้งข่าวสารเบาะแส

“ส่วนการตรวจสอบบัญชีรายชื่อนายตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีมีการเผยแพร่บัญชีรายชื่อผ่านทางโชเชียลมีเดียนั้น ขณะนี้ทางจเรตำรวจ กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 4-5 วัน จะมีความชัดเจน ขณะเดียวกันได้รับรายงานว่ามีนายตำรวจบางท่านที่ได้รับความเสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้วซึ่งรายละเอียดทั้งหมดต้องรอผลการสอบสวน” รอง ผบ.ตร.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น