ล่ามือฆ่าหญิงชราปล่อยเงินกู้ มุ่งหน้าหนีด่านทับช้าง

ชุดสืบสวนบางชันแกะรอยมือฆ่าหญิงชราชิงทรัพย์ พบมีการทิ้งหลักฐานก่อนมุ่งหน้าไปยังถนนกาญจนาภิเษก (เส้นขนานวงแหวนรอบนอก ใกล้ด่านทับช้าง) พบผู้ตายมีอาชีพปล่อยเงินกู้

จากกรณีที่คนร้ายบุกบ้านขโมยทรัพย์สินและแทงเจ้าของบ้านชื่อนางประคอง บุญชื่น อายุ 70 ปี เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 51 ซอยรามคำแหง 118 แยก 33 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมกับพระเครื่องพระร่วงรางปืน ก่อนหลบหนีไป

วันนี้ (17 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.น. ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ได้ไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเพิ่มเติม โดยบริเวณป่ารกข้างบ้านพบกระเป๋าสะพายสีดำ และอีกใบสีน้ำตาลซุกซ่อนอยู่ ภายในพบสมุดบัญชีธนาคารของ นายธานี บุญชื่น อายุ 73 ปี สามีผู้เสียชีวิต บริเวณหลังบ้านห่างไปอีกประมาณ 50 เมตร เป็นป่าหญ้าขนาดใหญ่บริเวณรั้วลวดหนามพบกระเป๋าสะพายข้างสีดำ 1 ใบ ภายในมีเอกสารประจำตัวของผู้ตาย ใกล้กันยังพบหมวกไหมพรมสีแดง และถุงมือสีเทา 1 ข้าง จากการตรวจสอบร่องรอยการทิ้งหลักฐานตามทางซึ่งมุ่งหน้าไปยังถนนกาญจนาภิเษก (เส้นขนานวงแหวนรอบนอก ใกล้ด่านทับช้าง) คาดว่าเป็นเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จึงไปตรวจสอบเพิ่มเติมบริเวณใต้สะพานข้ามคลองเจ็ก พบกล่องใส่พระเครื่อง กางเกงขาสั้นสีดำเปื้อนเลือด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.ท.ธนาวินท์ กาญจนวิภาส สว.สส.สน.บางชัน กล่าวว่า จากการสอบสวนนายธานีทราบว่า นางประคองเคยเปิดร้านขายของชำ ปัจจุบันปล่อยเงินกู้ จากการชันสูตรพลิกศพในห้องที่เกิดเหตุมีรายงานว่าพบเชือกมัดติดกับตะกรุดโดยศพนอนทับไว้ ทางนายธานีสามีผู้ตายยืนยันว่าไม่เคยพบเห็นตะกรุดดังกล่าวมาก่อน แล้วจากหลักฐานที่พบบริเวณใกล้เคียงของตัวบ้าน ทางญาติได้ยืนยันแล้วว่าเป็นของผู้ตายจริง โดยระบุว่ากระเป๋าสะพายข้างสีดำที่พบบริเวณหลังบ้านติดกับรั้วลวดหนามนั้นผู้ตายใช้ใส่พระเครื่อง แต่จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าทั้ง 3 ใบไม่พบของมีค่า เบื้องต้นได้ส่งหลักฐานทั้งหมดที่พบให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสารพันธุกรรม และรอยนิ้วมือแฝงต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.พีระวัฒน์ สุขรมย์ สว.สส.บก.น.4 กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านพบว่ามีผู้คนขับรถผ่านซอยเป็นจำนวนมาก ยากที่ระบุตัวผู้ต้องสงสัย แต่จากการตรวจสอบบริเวณหลังบ้านซึ่งสามารถเดินเท้าไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษกได้ เป็นเบาะแสสำคัญจึงจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน และบริเวณใกล้เคียงตามถนนกาญจนาภิเษก หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป