ฆ่าชิงทรัพย์หญิงชรา ได้สร้อยทองหนัก 2 บาทกับพระร่วงรางปืน ขณะสามีออกไปขายผักในตลาดนัด ตร.คาดคนร้ายสบโอกาสเห็นผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพังเลยลงมือ
เมื่อเวลา 22.00 น. วานนี้ (16 มี.ค.) พ.ต.ท.วิทยา เรืององอาจ พนักงานสอบสวน สน.บางชัน รับแจ้งเหตุหญิงถูกฆ่าตายในบ้านเลขที่ 51 ซอยรามคำแหง 118 แยก 33 ถนนรามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กทม. จึงไปตรวจที่เกิดเหตุสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น. 4 พ.ต.อ.สุวิชชา จินดาคำ ผกก.สน.บางชัน พ.ต.ท.อภิชาติ อุตรมาตย์ รอง ผกก.สส.สน.บางชัน แพทย์เวรโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบศพหญิงชรานอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณใต้ราวนมซ้าย มีรอยฟกซ้ำจากการถูกตีด้วยของแข็งทั่วร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 4 ชั่วโมง ทราบชื่อต่อมา คือ นางประคอง บุญชื่น อายุ 70 ปี
จากการสอบถามนายธานี บุญชื่น อายุ 73 ปี สามีผู้เสียชีวิตให้การว่า ตนมีอาชีพขายผักอยู่บริเวณตลาดนัดภายในหมู่บ้านพฤกษชาติใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยออกจากบ้านเวลาประมาณ 05.00 น.ของทุกวัน ก่อนจะกลับมาที่บ้านเวลาประมาณ 21.00 น. เมื่อมาถึงก็พบว่าประตูบ้านด้านหน้าไม่ได้ล็อก ปกติต้องล็อกทั้งด้านในและด้านหน้า เมื่อเปิดประตูเข้าไปบริเวณชั้นล่างพบภรรยานอนจมกองเลือดอยู่จึงรีบแจ้งตำรวจ
พ.ต.ท.วิทยากล่าวว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับสามีเพียงสองคน ขณะเกิดเหตุผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนสามีไปขายของ คนร้ายไม่ทราบจำนวนสบโอกาสเข้ามาก่อเหตุ แต่เกิดการต่อสู้กันขึ้นจนข้าวของกระจัดการะจาย เบื้องต้นพบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมกับพระเครื่องพระร่วงรางปืนที่คอของผู้ตายหายไป จึงตั้งปมการสังหารในเรื่องชิงทรัพย์ไว้ก่อน แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในจุดที่เกิดเหตุและสอบพยานแวดล้อม บุคคลที่เกี่ยวข้องโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรศพที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป