จับสามีขี้เหล้า เมายาบ้าซ้อมภรรยาชาวญี่ปุ่น

ตร.บางนา ตามจับสามีขี้เหล้า เสพยาบ้าซ้อมภรรยาสาวชาวญี่ปุ่น จนประเด็นโด่งดังในโลกโซเชียล เจ้าตัวรับสารภาพพร้อมสำนึกผิดในการกระทำ

วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป ผบก.น.5 พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.5 พ.ต.ท.สิราวิชญ์ นวมดี รอง ผกก.สส.สน.ท่าเรือ รรท.รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ท.สมสิทธิ์ สันทัศนะโชค สวป.สน.พระโขนง รรท.รองผกก.ป.สน.บางนา พ.ต.ท.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล สวป.สน.บางนา และ พ.ต.ต.อภิโชค ขนบดี สว.สส.สน.บางนา แถลงผลการจับกุม นายรุ่งโรจน์ ตราบศรี อายุ 34 ปี จับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยวชิรธรรมสาธิต 2 แขวงและเขตบางนา กทม.

พ.ต.อ.ภาดลกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มี.ค. เวลาประมาณ 18.30 น. น.ส.มิโฮ คัทสึมิ อายุ 37 ปี สัญชาติญี่ปุ่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางนา ให้ดำเนินคดีต่อนายรุ่งโรจน์ ตราบศรี อายุ 34 ปี สามีของตน กรณีทำร้ายร่างกายตั้งแต่เริ่มมีบุตรชายด้วยกันจนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยปกติแล้วนายรุ่งโรจน์มีพฤติกรรมชอบดื่มสุรา เสพยาบ้า และหยิบยืมเงิน น.ส.มิโฮเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อเดือนต้นเดือนมีนาคม 2558 นายรุ่งโรจน์ได้หยิบยืมเงิน น.ส.มิโฮไป 70,000 บาท และให้พกเงินสดเพียง 6,000 บาทเท่านั้น น.ส.มิโฮเกรงว่าตนจะถูกทำร้ายจึงได้ยอมให้ไป ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางนา สามารถติดตามจับกุมตัวนายรุ่งโรจน์ได้ และจากการสอบสวนนายรุ่งโรจน์ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นคนทำร้ายร่างกาย น.ส.มิโฮจริง และเพิ่งเสพยาบ้ามา ตรวจพบปัสสาวะมีสีม่วง

ด้านผู้ต้องหารับสารภาพว่า ภาพที่ น.ส.มิโฮนำไปแจ้งความนั้นเป็นภาพเก่าที่ถ่ายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเกิดจาก น.ส.มิโฮถ่ายภาพดังกล่าวแล้วแชร์ในกลุ่มเพื่อนเท่านั้น และเกิดการส่งต่อกัน จนกระทั่งไปเป็นประเด็นโด่งดังในโลกโซเชียล ในช่วงเวลานั้นตนดื่มสุราและเสพยาบ้าบ่อยครั้งทำให้ไม่มีสติ เมื่อมีปากเสียงกับ น.ส.มิโฮ มักจะลงมือทำร้ายร่างกายทุกครั้ง หลังจากนั้นตนจะพา น.ส.มิโฮไปหาเพื่อตรวจเช็กร่างกายทุกครั้ง หลังจากที่ น.ส.มิโฮให้กำเนิดบุตรชายจำนวน 1 คน ได้ตกลงกับตนว่าให้ออกมาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน น.ส.มิโฮจะทำงานหาเงินเอง เพราะเงินเดือนของตนน้อย ช่วงหลังที่มีปากเสียงกันตนไม่เคยลงมือทำร้าย รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรักภรรยาและลูกมาก ไม่ว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นอย่างไร ตนก็จะยอมรับ หรือน.ส.มิโฮจะขอหย่า ตนก็จะยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ จึงขอฝากเตือนถึงคนที่มีครอบครัวแล้ว หากจะทำอะไรควรคิดให้ดี คิดให้รอบคอบก่อน มิเช่นนั้นจะมานั่งเสียใจภายหลัง