คิวการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “รองสารวัตร” – “ชั้นประทวน” ประจำปี 2557 ที่ค้างเติ่งข้ามปีมา แม้จะยังไม่มีกำหนดอะไรออกมาอย่างชัดเจน จากหัวเรือใหญ่สำนักปทุมวัน แต่ถ้าจับสัญญาณจากหน่วยงานแวดล้อมก็ต้องบอกว่า เริ่มมีแนวโน้มที่ดีให้ ผู้กอง ผู้หมวด ดาบ จ่า และหัวหมู่ ได้เตรียมเข้าลู่กันแล้ว
ตามปฏิทิน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ รองสารวัตร(รองสว.) – ชั้นประทวน ประจำปี 2557 ที่ค้างเติ่งข้ามปี น่าจะเกิดขึ้นหลังเสร็จสิ้นการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง เพราะเริ่มมีสัญญาณเรดาร์การแต่งตั้งที่ใกล้เข้ามาถึงคิว ผู้กอง ผู้หมวด ดาบ จ่า หมู่ กันแล้ว คาดว่าผ่านพ้น “สงกรานต์” ทุกอย่างคงชัดเจนขึ้น
คิวการแต่งตั้งโยกย้าย “สีกากี” หลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ไฟเขียวบัญชีรายชื่อแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง ล็อตแรก ระดับ ผบช.ขึ้นไป ยศ พล.ต.ท. เรียบร้อยแบบไม่มีพลิก มีแต่ล็อค ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะประธาน ใช้เวลาพิจารณากันเพียง 10 นาที ทุกรายชื่อก็ผ่านฉลุยตามที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่สำนักปทุมวัน เสนอบัญชี
พล.ต.ท.ธีรศักดิ์ กลิ่นพงษา หัวหน้าจเรตำรวจ (สบ 8) ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ จเรตำรวจ(สบ 8) เป็น หัวหน้าจเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว รอง ผบช.ศชต. เป็น จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รอง ผบช.ศ. เป็น จเรตำรวจ (สบ 8) พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิ์ประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 เป็น ผบช.ประจำ ตร. และพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.ก เป็น ผบช.ก.
จากนั้นคิวต่อไปน่าจะเป็นการแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” นอกฤดู อีกล็อต ซึ่งเป็นล็อตสอง ระดับ รองผู้บัญชาการ (รองผบช.) – ผู้บังคับการ (ผบก.) ยศ พล.ต.ต. แทนตำแหน่งว่าง ที่คาดว่าฤกษ์งามยามดีคงทำบัญชีแต่งตั้งกันในช่วงปลายเดือนมีนาคม หรือจากนี้อีก 2-3 อาทิตย์ข้างหน้า
ขณะที่คิวการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ “รองสารวัตร” – “ชั้นประทวน” ประจำปี 2557 ที่ค้างเติ่งข้ามปีมา แม้จะยังไม่มีกำหนดอะไรออกมาอย่างชัดเจน จากหัวเรือใหญ่สำนักปทุมวัน แต่ถ้าจับสัญญาณจากหน่วยงานแวดล้อมก็ต้องบอกว่า เริ่มมีแนวโน้มที่ดีให้ ผู้กอง ผู้หมวด ดาบ จ่า และหัวหมู่ ได้เตรียมเข้าลู่กันแล้ว
สัญญาณนี้ถูกถอดรหัสจากบันทึกข้อความ ที่พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (รองผบช.สกพ.) ลงนามในฐานะปฏิบัติราชการแทน ผบช.สกพ. ส่งไปถึงทุกผู้บังคับบัญชาทุกกองบัญชาการ และหน่วยขึ้นตรง ให้แจ้งผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่อง หลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศตามคุณสมบัติ
เฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ ในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระดับ รองสว. ลงมา หลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศดังกล่าว พล.ต.ต.ปิยะ แจ้งการยกเลิกหลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศตามหนังสือ ตร. ที่ 0006.121/13191 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2546 ทั้งหมด และใช้หลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศเป็นข้าราชการตำรวจระดับ รองสว. ลงมาใหม่
โดยภาษาอังกฤษสามารถเลือกเข้ารับการทดสอบจากสถาบันต่างๆ ซึ่งมีระดับคะแนนไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ TOEIC 495 คะแนน TOEFL 53 คะแนน CU-TEP 60 คะแนน IELTS 4.5 คะแนน ส่วนภาษาต่างประเทศอื่น นอกจากภาษาอังกฤษ จะต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานราชการ หรือสถาบันการศึกษา หรือสถาบันที่ได้มาตรฐานตามที่ สตม.กำหนด โดยความเห็นชอบของ ตร.
ส่วนผลการทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศของตำรวจนอกสังกัด สตม.เพื่อใช้ยื่นขอรับการแต่งตั้งเป็นตำรวจในสังกัด สตม.ให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่เข้ารับการทดสอบ โดยสตม.จะตรวจสอบความถูกต้องของผลการทดสอบกับสถาบันที่ทำการทดสอบ ก่อนที่จะประกาศรายชื่อเป็นผู้ผ่านการทดสอบ
ขณะที่ตำรวจระดับ รองสว.ลงมา ที่ดำรงตำแหน่งในสังกัด สตม. ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศ ให้ สตม.ประสานกับสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของรัฐที่ได้มาตรฐานดำเนินการฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ความเข้าใจภาษาต่างประเทศ และจัดการทดสอบภาษาอังกฤษ โดยมีขอบเขตการทดสอบประกอบด้วย การอ่าน การฟัง และการสนทนา เพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งซึ่งผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องเป็นผู้ที่สอบได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบ
ที่น่าสนใจในบันทึกแจ้งข้อความดังกล่าวของสำนักงานกำลังพล ระบุว่า สำหรับข้าราชการตำรวจนอกสังกัด สตม. หรือตำรวจในสังกัด สตม. ซึ่งเป็นผู้ผ่านการทดสอบ ไม่เป็นข้อผูกมัดในการพิจารณาแต่งตั้งดำรงตำแหน่งต่างๆ ในสังกัด สตม.
ซึ่งแสดงว่าถึงจะผ่านหลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ ในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระดับ รองสว. ลงมา แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้นั่งเก้าอี้ “สตม.” ตามที่ต้องการ
เพราะต่างก็รู้ว่าเก้าอี้ “สตม.” ไม่เว้นแม้แต่ รองสว. หรือชั้นประทวน ล้วนมีขุมทรัพย์ทั้งสิ้น ใครจะมาอยู่นอกจากแต่งตัวตามคุณสมบัติครบแล้ว “เส้นสาย” ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ต้องมีควบคู่ไม่ต่างจะระดับ นายพัน นายพล เช่นกัน
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะต้องใช้เส้นสายในการ “วิ่ง” สู่เก้าอี้ สตม. อย่างไร แต่บันทึกหลักเกณฑ์การทดสอบความรู้ภาษาต่างประเทศสำหรับตำแหน่งตำรวจ ในสังกัด สตม. ระดับ รองสว. ลงมาครั้งนี้ ก็ถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่ส่งออกและเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ รองสว.-ชั้นประทวน ซึ่งต่างเฝ้ารอกันอยู่ว่า
เมื่อไหร่จะถึงคิว ชั้นผู้น้อยเสียที!!!