สน.พระอาทิตย์
ผ่านฉลุยเรียบร้อยโรงเรียนสีกากี วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จัดทำบัญชี “ผู้เหมาะสม” เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในระดับ “ผู้บัญชาการ” หรือ “ผบช.” เพื่อใช้ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ พล.ต.ท.ขึ้นไป เสร็จสิ้นครบถ้วน ตามกฎ ตามระเบียบทุกขั้นตอน
พร้อมสำหรับแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู แทนตำแหน่งว่าง ในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2558
บัญชีรายชื่อ “ผู้เหมาะสม” เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในระดับ ผบช. 10 ลำดับแรก ที่ถูกจัดเรียงใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว รอง ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อาวุโสอันดับ 1 พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รอง ผบช.กองบัญชาการศึกษา อาวุโสอันดับ 2 พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง ผบช.ภ.1 อาวุโสอันดับ 3 พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง ผบช.ภ.8 อาวุโสอันดับ 4 พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รอง ผบช.สพฐ. อาวุโสอันดับ 5
พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รอง ผบช.ภ.2 อาวุโสอันดับ 6 พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 อาวุโสอันดับ 7 พล.ต.ต.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ รอง ผบช.ศชต. อาวุโสอันดับ 8 พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบช.สำนักงานตรวจสอบภายใน ซึ่งอาวุโสอันดับ 9 และ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.ก. รักษาการ ผบช.ก. อาวุโสอันดับ 39
การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูปีนี้ มีเก้าอี้ว่าง 6 ตำแหน่ง แบ่งเป็นระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. 1 ตำแหน่ง แทน พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่เข้าโครงการลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ ระดับ ผบช. 5 ตำแหน่ง 1. แทน พล.ต.ท.พนมศักดิ์ ทั่งทอง อดีตจเรตำรวจ (สบ 8) ที่เข้าโครงการลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ 2. แทน พล.ต.ท.ปริญญา จันทร์สุริยา ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ที่เข้าโครงการลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ 3. แทน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ 4. แทนตำแหน่ง ผบช.ที่ขยับขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร.แทน พล.ต.ท.จงเจตน์ และ 5. แทนตำแหน่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.(ทำหน้าที่ประสานงานนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย)
ว่ากันว่า โผรายชื่อแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” นอกฤดู ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แม่ทัพใหญ่ เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ก.ตร.ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร.วันอังคารที่ 10 มี.ค.นี้ เวลา 13.00 น. จะยึดตามหลักเกณฑ์ ก.ตร.อย่างเคร่งครัด
โดยระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเสนอชื่อ “บิ๊กเบิ้ม” พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา หัวหน้าจเรตำรวจ (สบ 8) อดีตนายเวร พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต ผบ.ตร. ซึ่งมีความอาวุโสอันดับ 1 เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.
ส่วนระดับ ผบช.ที่ว่าง 5 ตำแหน่ง จะแต่งตั้งเพียง 4 ตำแหน่ง อีก 1 ตำแหน่ง คือ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทำหน้าที่ประสานงานนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม) ที่มี พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบช.ก.รักษาการตำแหน่ง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.(ทำหน้าที่ประสานงานนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม) นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงให้ พล.ต.ต.รอย รักษาการตำแหน่งไปก่อน
ขณะที่อีก 4 เก้าอี้ ระดับ ผบช.จะยึดหลักเกณฑ์ ก.ตร. คือ แบ่งเป็น 2 เก้าอี้ จากสัดส่วนอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ ทำให้อาวุโสลำดับ 1 พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว รอง ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.จเรตำรวจ (สบ 8) อาวุโสลำดับ 2 พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช รองผบช.ศ. เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.
อีก 2 เก้าอี้มาจากผู้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งเก้าอี้ตัวแรก “บิ๊กหมู” พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.ก. แม้จะอาวุโสอยู่ลำดับ 39 แต่ตีตราจองไว้ตั้งแต่ไก่โห่ ด้วยแรงสนับสนุนจาก “ซูเปอร์เพาเวอร์” ขยับขึ้น “ผบช.ก.” หรือผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” แบบไร้คู่แข่ง
เก้าอี้อีกตัวพลิกโผเล็กน้อย จากเดิมคาดกันว่า พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รอง ผบช.สพฐ. นักเรียนนายร้อย (นรต.รุ่น 35) เป็นตัวเต็งระดับต้นๆ จะขยับขึ้น ผบช.ตามโควตาความรู้ความสามารถ แต่พอเข้าโค้งสุดท้าย ชื่อ พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ รอง ผบช.ภ.3 อาวุโสอันดับ 7 นรต.รุ่น 34 กลับโผขึ้นมา และแรงขึ้นเรื่อยๆ ที่จะคว้าเก้าอี้ “ผบช.” อีก 1 ตำแหน่งครอง
สำหรับ พล.ต.ต.เติมพงษ์ นอกจากเป็น นรต.34 และเมื่อเทียบรุ่นทหารก็ตรงกับเตรียมทหาร (ตท.18) ซึ่งช่วงนี้มีบทบาทอยู่ในกองทัพหลายคน รวมทั้ง พล.ต.ต.เติมพงษ์ อยู่ในพื้นที่ภาค 3 มานาน จนเรียกว่าเป็นลูกหม้อโคราช ความสนิทสนมกับผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งการเมือง และการทหารในพื้นที่จึงสูง ทำให้ได้รับแรงสนับสนุนในการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูครั้งนี้
ในส่วนเก้าอี้ “ผบช.” อื่นๆ แน้วโน้มน่าจะไม่มีการหมุนเวียน เพราะก่อนนี้ไม่กี่วัน พล.ต.อ.สมยศก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพอใจการทำงานของ “ผบช.” แต่ละคน รวมทั้ง “ผบช.” หลายเก้าอี้ ก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น “ผบช.” แค่ 4-5 เดือน หากมีการโยกย้าย สลับหมุนเวียน ก็อาจจะเกิดแรงกระเพื่อมได้
เชื่อว่า พล.ต.อ.สมยศ ไม่น่าจะเสี่ยงปรับเปลี่ยนให้มากคน ไม่เช่นนั้นก็จะเข้าตำรายิ่งมากคนก็ยิ่งมากความ
อย่างไรก็ดี แวดวง “สีกากี” อะไรที่แน่ๆ ก็ไม่แน่เสมอไป ตราบใดที่คำสั่งไม่ถูกเซ็นชื่อและมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที โดยเฉพาะยามนี้เก้าอี้ “ผบช.น.” ของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ถูกโฟกัสเป็นพิเศษ หลังจากเกิดรายการ “งัดข้อ” กันเล็กๆ เรื่องปมร้อนๆ จับ “บ่อนเตาปูน” ที่ไม่ใช่เรื่องแค่จับบ่อนจับผีพนัน แต่เป็นการ “หักเหลี่ยม เฉือนคม” วัดกำลังภายในตามสไตล์สีกากี
วันที่ 10 มี.ค.นี้ ประชุม ก.ตร. วาระแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ซึ่งดูเหมือนจะลงล็อกเรียบร้อย กลับกลายเป็นวาระประชุมที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง