ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ผู้ต้องสงสัยฆ่าข่มขืนหญิงชราในหลายจังหวัดภาคกลาง ไม่ตรงกับตัวอย่างที่เกิดเหตุ จึงต้องปล่อยตัวไปโดยไม่มีการแจ้งข้อหา เชื่อคนร้ายตัวจริงหนีออกนอกพื้นที่แล้ว โฆษก ตร.ยอมรับคดีนี้มีความซับซ้อนแต่จะพยายามต่อไป
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวถึงกรณีทีมสืบสวนสอบสวนคดีคนร้ายข่มขืนฆ่าและชิงทรัพย์หญิงชราต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรสงคราม ควบคุมตัวชายต้องสงสัยรายล่าสุดในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ว่า ผลตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องหาสงสัยรายนี้จากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พบว่าดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยไม่ตรงกับตัวอย่างที่เก็บได้จากจุดเกิดเหตุ ส่วนตอนแรกที่ผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพน่าจะเกิดจากผู้ต้องสงสัยตกใจหลุดปากยอมรับสารภาพ ในกรณีนี้ตามหลักการตำรวจจะไม่นำถ้อยคำรับสารภาพมาดำเนินคดีทันทีเนื่องจากมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ไป โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา โดยเชื่อว่าคนร้ายออกนอกพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ขอให้สังคมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เร่งทำงานอย่างเต็มที่
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยกว่า 100 คนมาสอบปากคำและตรวจสอบดีเอ็นเอแต่ก็ยังไม่ตรงกับข้อมูลของผู้ก่อเหตุ และเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคดีนี้น่าจะหลบออกนอกพื้นที่เกิดเหตุ ส่วนแนวทางการสืบสวนตำรวจเน้นการลงพื้นที่ชุมชนเป้าหมายเพื่อหาข้อมูลและแจ้งเตือนกับชาวบ้าน รวมทั้งผู้หญิงชราที่อาศัยเพียงลำพังให้ระมัดระวังตัวเอง
“ยอมรับว่าคดีนี้มีความซับซ้อน เพราะลักษณะการก่อเหตุของผู้ก่อเหตุนั้นลงมือเพียงลำพัง และหลังก่อเหตุจะทิ้งช่วงเวลานานพอสมควรก่อนจะก่อเหตุซ้ำ กรณีนี้จึงยากต่อการรวบรวมพยานหลักฐาน และต้องใช้เวลานานพอสมควรในการสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี” โฆษก ตร.ระบุ
