ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจยันไฟไหม้แบงก์ไทยพาณิชย์ไม่กระทบคดีลักเงิน สจล.เพราะเอกสารสำคัญที่ทีมสอบสวนต้องการได้รับครบถ้วนก่อนหน้านี้แล้ว
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. รรท.ผบก.ป. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ว่าในช่วงบ่ายวันนี้นายโมไนย์ ไกรฤกษ์ รักษาราชการแทนอธิการบดี สจล.จะเดินทางเข้าให้ปากคำในฐานะผู้กล่าวหาเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน
พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวต่อว่า ในส่วนของเหตุการณ์เพลิงไหม้ ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าไม่มีกระทบต่อคดีลักเงิน สจล.แน่นอน เนื่องจากเอกสารสำคัญที่พนักงานสอบสวนต้องการนั้นได้รับครบถ้วนจากเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ไปก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว และไม่อยากให้ซ้ำเติมหรือโจมตีทางธนาคาร เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายมากพอแล้ว น่าจะเห็นใจธนาคารมากกว่า
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีไฟไหม้ชั้น 10 ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ว่าต้องรอผลจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้เกิดขึ้นเพราะอะไร ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีอะไรเสียหายบ้าง อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะว่ามีเจตนาที่ต้องการทำลายข้อมูลหลักฐานซึ่งอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ เท่าที่ฟังนายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ชี้แจ้งว่าไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารที่ไปเกี่ยวข้องกับคดี สจล.
“ต้องให้เกียรติท่าน เมื่อท่านบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง และผมเชื่อว่าปัจจุบันระบบไอทีมันก้าวหน้าเยอะ การที่จะเก็บข้อมูลหรือสำคัญๆ ไว้ที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะคงไม่ใช่ ต้องมีระบบเก็บฐานข้อมูลสำรองไว้ เชื่อว่าตรงนี้คงจะไม่น่าจะเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวข้องก็แล้วแต่ ก็ต้องรอดูรายละเอียด” พล.ต.อ.สมยศกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่มองอีกมิติว่ามาเกิดเหตุช่วงที่มีคดี สจล. ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็สุดแท้ว่าใครจะคิดอย่างไร ความบังเอิญเกิดขึ้นได้ หรือความจงใจเกิดขึ้นได้ แต่เราต้องให้ความเชื่อมั่นว่าหลักฐานต่างๆ จะต้องเป็นไปตามหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่อยู่ในขณะนี้ ถ้าเป็นอุบัติเหตุก็คืออุบัติเหตุ แต่ถ้าเป็นการจงใจหรือตั้งใจกระทำขึ้นคงมีร่องรอยทิ้งไว้บ้าง ต้องรออย่าเพิ่งด่วนสรุป