ป.ป.ส.ผสานกำลังทหาร ตำรวจ และดีเอสไอ บุกจับนักค้ายานรกรายใหญ่ จากปฏิบัติการปูพรมค้น 14 จุดเครือข่ายนักค้ายาบ้า 4 รายสำคัญ ยึดทรัพย์ได้กว่า 70 ล้านบาท
วันนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นำโดยนายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต เลขาธิการ ป.ป.ส. ผสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจค้นที่พักและสถานที่ที่เกี่ยวข้องเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่เป้าหมายรวม 14 จุด แบ่งเป็นในพื้นที่ จ.เชียงราย 8 จุด จ.เชียงใหม่ 1 จุด จ.สมุทรปราการ 1 จุด จ.นนทบุรี 1 จุด และ จ.สงขลา 3 จุด
โดยปฏิบัติการจับกุมตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลเพื่อจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสําคัญ 4 ราย ได้แก่ 1. นายภาวี เลิศกฤติธร อายุ 31 ปี ชาว จ.เชียงราย 2. นายมนตรี แซ่อึ้ง อายุ 32 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ 3. กุมนายนิกร แซ่ลี อายุ 20 ปี ชาว จ.เชียงราย และ 4. นายกฤษณันท์ มณีโรจน์ อายุ 43 ปี ชาว จ.สงขลา
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า จากการปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถจับกุมนายกฤษณันท์ มณีโรจน์ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับศาล จังหวัดสงขลาตั้งแต่ปี 2549 และเคยเป็นนักค้ายาเสพติดที่สํานักงาน ป.ป.ส.และตํารวจภูธรภาค 9 ต้องการตัวมากที่สุด หลบหนีและอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี แต่ยังมีพฤติการณ์จัดหายาเสพติดจากด้านพื้นที่ จ.เชียงราย และพื้นที่ภาคกลาง ให้เครือข่ายลําเลียงไปจําหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้สืบสวนพบว่าหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน ต. บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงเฝ้าติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยได้ขยายผลตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องรวม 4 จุดในพื้นที่ จ.นนทบุรี และ จ.สงขลา สามารถยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายนี้ เช่น บ้านพักอาศัยที่ จ.นนทบุรี อพาร์ตเมนต์ รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ ของนายกฤษณันท์ มูลค่ารวมประมาณ 15 ล้านบาท
สำหรับเครือข่ายค้ายาเสพติดนายภาวี เลิศกฤติธรนั้น สํานักงาน ป.ป.ส.ได้ร่วมกับ สภ.สําโรงเหนือ สืบสวนและติดตามพฤติการณ์มาเป็นระยะเวลานาน พบว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดที่สามารถจัดหายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า และพื้นที่ชายแดนไทย-ลาวได้คราวละจํานวนมาก โดยใช้เส้นทางตามแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคํา ทอดยาวตลอดมาถึงพื้นที่ด้าน จ.เลย จ.หนองคาย เป็นจุดลักลอบ นําเข้ายาเสพติด ลําเลียงเข้าพื้นที่ตอนใน ให้เครือข่ายเก็บพักและจําหน่ายให้กับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพ สมุทรปราการ นนทบุรี ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่ได้เคยจับกุมเครือข่ายนายภาวีไปแล้วหลายราย และมีการยึดทรัพย์สินไปเป็นจํานวนมาก แต่เนื่องจากนายภาวียังไม่ถูกจับกุมจึงยังสามารถจัดหายาเสพติดเข้ามาจําหน่ายอย่างต่อเนื่อง ต่อมา สภ.สําโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายที่เป็นลูกค้ายาเสพติดของนายภาวี และสามารถขยายผลจนสามารถ ออกหมายจับกุมนายภาวี นายมนตรี แซ่อึ้ง และนายนิกร แซ่ลี ได้ในที่สุด และได้ทําการขยายผลยึดทรัพย์สิน ดังนี้ 1. เงินในบัญชีธนาคารประมาณ 25 ล้านบาท 2. รถยนต์ 6 คัน จักรยานยนต์ 3 คัน และ 3. ที่ดินพร้อมบ้านพักอาศัย รวม 8 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 10 ไร่ รวมทรัพย์สินทั้งสิ้นมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึด อายัดได้ทั้งสองคดี มูลค่ารวมประมาณ 70 ล้านบาท
“การผสานกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งจาก ป.ป.ส. ตำรวจ ทหาร และดีเอสไอในครั้งนี้เพื่อขยายผลจับกุมยึดทรัพย์เครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มักใช้เส้นทางลำเลียงยาเสพติดทางแม่น้ำโขง โดยจากการติดตามพฤติการณ์มาเป็นระยะเวลานาน พบว่า เครือข่ายที่สนธิกำลังจับกุมในวันนี้ เป็นเครือข่ายการค้ายาเสพติดที่สามารถจัดหายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า และพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว ได้คราวละจํานวนมาก ลําเลียงโดยใช้เส้นทางแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคํา มาถึงพื้นที่ด้าน จ.เลย จ.หนองคาย ก่อนลําเลียงเข้าพื้นที่ตอนใน ให้เครือข่ายเก็บพักและจําหน่ายให้กับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง ปฏิบัติการครั้งนี้นับเป็นอีกแนวทางการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นความร่วมมือของ 4 ประเทศ คือ ไทย จีน พม่า ลาว ซึ่งนอกเหนือจากความร่วมมือปฏิบัติงานร่วมกันทั้ง 4 ประเทศแล้ว แต่ละประเทศก็ได้กำหนดพื้นที่ปฏิบัติงานของตนเองด้วย” นายเพิ่มพงษ์กล่าว