ตำรวจจับเพิ่มอีก 1 ราย แก๊งหลอกเล่นพนันกำถั่ว ตุ๋นเหยื่อหลายรายสูญเงินร่วม 25 ล้านบาท สารภาพเลือกเหยื่อที่มีฐานะหรืออสังหาริมทรัพย์ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ก่อนนำเงินส่วนแบ่งที่ได้ไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและเล่นพนัน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (7 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. แถลงผลการจับกุม นายสำราญ หรือวุฒิศักดิ์ หรือหนึ่ง หรือบ่าว ฤกษ์ดี อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ 70/2558 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง พร้อมของกลางป้ายทะเบียนรถยนต์ 7 ป้าย เล่มทะเบียนรถยนต์ 7 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง รถยนต์โตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนสีแดง (ป้ายแดง) ธ 4455 กทม. รถเบนซ์สีขาว หมายเลขทะเบียน ธ 1188 กทม. โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างแมกซ์ แวลู (Max Value) สาขาหมู่บ้านปัญญาอินทรา ถนนปัญญาอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม. รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 25 ล้านบาท
พล.ต.ต.สมบัติกล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนางวันเพ็ญ หรือเจ๊แหม่ม สิทธิรัตน์ อายุ 43 ปี ทำหน้าที่เป็นเลขาฯ เสี่ย หัวหน้ากลุ่มเครือข่ายหลอกเล่นพนันกำถั่ว มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายรายและสูญเสียทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านบาท จากการสืบสวนขยายผลพบว่านายสำราญหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่านถนนรัชดา-รามอินทราตัดใหม่ โดยผู้ต้องหามักจะใช้รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ คันของกลาง โดยระหว่างที่ชุดสืบสวนเฝ้าสังเกตการณ์ในบริเวณใกล้เคียงได้พบรถยนต์ของนายสำราญ ขับออกจากคอนโดมิเนียม แชมเบอร์ รามอินทรา จึงติดตามไปกระทั่งพบว่ารถคันดังกล่าวขับไปจอดที่บริเวณฝั่งตรงข้ามห้างแมกซ์ แวลู สาขาปัญญาอินทรา เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนพบชายคนดังกล่าวจึงแสดงตนก่อนเข้าตรวจค้น จากการสอบถามชายคนขับรถคันดังกล่าว รับสารภาพว่าคือนายสำราญ ฤกษ์ดี
พล.ต.ต.สมบัติกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายสำราญรับสารภาพว่า ร่วมกับนายสัมพันธ์ ศรีนาค หรือเสี่ย หรือบอส, นางวันเพ็ญ สิทธิรัตน์ หรือเจ๊แหม่ม ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้าแล้ว, นายชาติ และนางมะเขือ หรือมะปราง ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง ยังหลบหนี รวม 4 คน จะตระเวนเพื่อหาป้ายประกาศขายบ้าน หรือที่ดิน ก่อนจะให้นายสำราญ เข้าไปติดต่อพูดคุย และสังเกตพฤติกรรมของเหยื่อว่าสามารถหลอกได้ง่ายหรือไม่ โดยส่วนใหญ่จะเลือกเหยื่อประเภทบุคคลที่มีอายุ อยู่บ้านเพียงลำพัง มีอสังหาริมทรัพย์ในความครอบครอง กว่าที่เหยื่อจะรู้ตัวก็เสียเงินไปจำนวนมากแล้ว สำหรับเงินที่ได้จากผู้เสียหายนั้น คนร้ายจะนำไปแบ่งกัน สำหรับนายสำราญนั้นอ้างว่า นำเงินที่ได้นำไปใช้จ่าย ซื้อทรัพย์สินเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายราคาแพง บางส่วนนำไปใช้เล่นการพนัน ทั้งนี้หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสำราญไปส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีทันที
พล.ต.ต.สมบัติกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มของนายสำราญ ได้ก่อเหตุในพื้นที่ทั้ง กทม.และในจังหวัดต่างๆ มีผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว ได้แก่ กองบังคับการปราบปราม, สน.บางเขน, สน.บางนา, สน.โชคชัย, สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา, สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 25 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มีการตรวจยึดรถเบนซ์ 1 คัน รถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน โฉนดที่ดินใน กทม.และต่างจังหวัด 45 แปลง คอนโดมิเนียม อีก 5 ห้อง ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
