รปภ.ยิงลูกบ้านดับคาป้อม อ้างผู้ตายเมาด่าบุพการี เกิดบันดาลโทสะ

รปภ.โหดยิงลูกบ้านดับหน้าป้อมยามหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ มอบตัวกองปราบฯ อ้างบันดาลโทสะเพราะผู้ตายเมาสุรายืนด่าทอถึงบุพการีตนด้วยคำหยาบคาย จึงตัดสินใจใช้ศาลเตี้ยตัดสินปัญหา

วันนี้ (5 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รักษาการ ผบช.ก. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.จอม สิงห์น้อย สว.กก.3 บก.ป. แถลงผลการเข้ามอบตัวของ นายชูศักดิ์ สันติรัตนมงคล อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26ก ม.6 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 58/2558 ลงวันที่ 1 ก.พ. 2558 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง

พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. นายชูศักดิ์ หัวหน้า รปภ.หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ ซอยเทอดไท 74 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.ใช้ปืนยิงนายธัญยวีร์ ธรรมธาราธารกุล อายุ 37 ปี คนขับรถตู้รับจ้างทั่วไปซึ่งพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวเสียชีวิตที่ป้อมยามหมู่บ้านดังกล่าว จากการสอบสวนเพื่อน รปภ.ทราบว่า ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมของหมู่บ้าน นายธัญญวีซึ่งอยู่ในลักษณะมึนเมาสุราเดินเข้ามาต่อว่านายชูศักดิ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นหัวหน้า รปภ.จนมีปากเสียงและชกต่อยกัน ก่อนที่นายชูศักดิ์จะกลับเข้าไปเอาอาวุธปืนภายในป้อมออกมายิงนายธัญญวีจนเสียชีวิต ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน รวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับดังกล่าว

พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวต่อว่า คดีนี้นับเป็นคดีสะเทือนขวัญ มีประชาชนให้ความสนใจ จึงได้สั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามลงไปร่วมติดตามล่าตัวคนร้ายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ต่อมาวันที่ 4 ก.พ.ญาติของผู้ต้องหาได้ติดต่อมาที่ พล.ต.ต.ฐิติราช เพื่อขอเข้ามอบตัวต่อตำรวจกองปราบปราม เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกดดันไล่ล่าติดตามตัวอย่างกระชั้นชิด

ด้านนายชูศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า เป็น รปภ.อยู่ที่หมู่บ้านดังกล่าวมาได้ 3 ปีแล้ว วันเกิดเหตุขณะที่กำลังเข้าเวรอยู่ภายในป้อมตามปกติ ผู้ตายซึ่งอยู่ในอาการเมาสุราได้เดินเข้ามาบอกตนเรื่องบ้านที่กำลังต่อเติม โดยจะให้ตนคอยกันรถผู้รับเหมาไม่ให้เข้าไปทำงานที่บ้านเนื่องจากผู้ตายมีปัญหากับผู้รับเหมา ระหว่างนั้นผู้ตายได้ยืนด่าทอถึงบุพการีตนด้วยคำหยาบคาย หาว่าตนไม่ยอมรับเรื่อง แต่เนื่องจากตนอยู่กะกลางคืนจึงได้บอกผู้ตายไปว่าจะบอก รปภ.กะกลางวันให้กักให้ พร้อมกับบอกให้ผู้ตายกลับบ้านไปก่อน แต่พูดตายก็ยังด่าทอและปรี่เข้ามาชกต่อยก่อน

“ผมและผู้ตายไม่เคยรู้จักและมีเรื่องกันมาก่อน แต่ครั้งนี้ผมทนไม่ไหวเพราะถูกด่าแต่พ่อล่อแม่ ตอนนั้นเพื่อน รปภ.ช่วยกันห้ามแต่เขาก็ไม่ฟัง แถมยังเข้ามาทำร้ายก่อน ทั้งที่ผมพยายามอยู่นิ่งๆ แล้ว ส่วนอาวุธปืนเป็นของผมเอง ปกติก็ไม่ได้พกมาประจำ แต่วันเกิดเหตุนำติดตัวมาไว้ที่ทำงานด้วย โดยเก็บไว้ในลิ้นชักที่ป้อมไม่ได้พกติดกับตัวไว้ ตอนที่ยิงก็ไม่ได้ตั้งใจจะยิง แต่ทำไปเพราะบันดาลโทสะ ที่เห็นในภาพวงจรปิดว่าผมเข้าไปเตะผู้ตายนั้น จริงๆ แล้วเข้าไปเขี่ยดูว่าผู้ตายอาการเป็นอย่างไรเนื่องจากเห็นแน่นิ่งไป เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ผมอยากจะขอโทษครอบครัวผู้ตายที่โมโหโทสะจนก่อเหตุดังกล่าวลงไป” นายชูศักดิ์กล่าว

พ.ต.อ.อัคราเดชกล่าวว่า เบื้องต้นได้หมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป ทำบันทึกการรับมอบตัวก่อนนำตัวนายชูศักดิ์ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน รับดำเนินคดีต่อไป