ASTVผู้จัดการ-กองปราบยังไม่ตัด “จุง สตรีเหล็ก” ออกจากพยานคดี สจล.เผยรอเทียบเอกสารกับคำให้การ ด้านการตรวจสอบเอกสารการเงินแบงก๋ไทยพาณิชย์ใกล้แล้วเสร็จ คาดทุกอย่างเสร็จทันสิ่นเดือนนี้แน่นอน สรุปสำนวนส่งอัยการ แต่อาจออกหมายจับเพิ่ม
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รองผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีลักเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)กล่าวถึง ความคืบหน้าของคดี ว่า ภายหลังสอบปากคำ นายคงฤทธิ์ สิงห์นุโคตร อายุ 49 ปี หรือ “จุง สตรีเหล็ก” อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเข้าพบพนักงานสอบสวนตามคำเชิญ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า เป็นไปตามขั้นตอนโดยนายคงฤทธิ์ ระบุว่า รู้จักกับนายทรงกลด ศรีประสงค์อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ และ อดีตพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง ในฐานะเพื่อนร่วมงานที่เคยทำงานธนาคารไทยพาณิชย์เช่นเดียวกัน
พ.ต.อ.ณษ กล่าวต่อว่า นายคงฤทธิ์ ยอมรับว่ารู้จักกับนายทรงกลด แต่ไม่ได้สนิทสนมกันซึ่งนายทรงกลด ก็ได้โอนเงินของ สจล.มาเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่นายคงฤทธิ์ เป็นผู้จัดการสาขา เพื่อหวังดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่หลังจากนั้นก็มีการแจ้งจาก น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีดังกล่าว โดยอ้างว่า ต้องการถอนเงินนำไปใช้จ่าย ก็ทำเรื่องถอนเงินไป เพราะนายคงฤทธิ์ ยืนยันว่า ดอกเบี้ยที่จะได้รับก็เหมือนกับการฝากกับธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอื่นทั่วไป ไม่ได้มากกว่ากัน
พ.ต.อ.ณษ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อ น.ส.อำพร ขอถอนเงินออกไปจากบัญชีดังกล่าว นายคงฤทธิ์ก็ทำเรื่องให้ถอนเงินไป แต่ภายหลังปรากฎว่าเอกสารในการดำเนินการไม่สมบูรณ์ ส่วนในรายละเอียดต่างๆ ในชั้นนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำให้การซึ่งเราก็ต้องเปรียบเทียบดูกับเอกสาร หากมีอะไรเพิ่มเติมเราก็จะต้องพิจารณาอีกทีแต่เท่าที่มีอยู่ในมือพนักงานสอบสวนขณะนี้ยังเป็นเพียงเบื้องต้น สำหรับเอกสารที่ยังเซ็นชื่อลงนามไม่ครบก็จะเกิดปัญหาเช่นกรณีการดำเนินคดีกับนายทรงกลดต้องมีการสอบสวนต่อว่าให้ผ่านไปได้อย่างไรต้องมีการเสนอให้ผู้บริหารเซ็นให้ครบ
รอง ผบก.ป.กล่าว ต่อว่า ในเมื่อธนาคารไม่ให้ความเชื่อถือเขาจึงลาออกมา เงินจำนวนนี้ถูกเบิกออกไปแล้ว เพราะไม่ได้ดอกเบี้ยสูงตามความต้องการ นายทรงกลด และ น.ส.อำพร จึงถอนเงินออกไป ส่วนสาเหตุที่นายคงฤทธิ์ ลาออก นั้น อาจเป็นเพราะทางธนาคารดังกล่าวไม่ไว้ใจเขาก็ต้องพิจารณาตัวเองด้วยการลาออก เพราะหากมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการสาขาแล้วมีความบกพร่อง แค่ครั้งเดียวเขาก็ลาออกโดยทางธนาคารแห่งนี้ก็หนังสือแจ้งไปแล้วว่าเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดข้อบกพร่องขึ้นได้
พ.ต.อ.ณษ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดรายชื่อนายคงฤทธิ์ ออกจากการเป็นพยานในคดีนี้ส่วนจะเชิญตัวมาให้ปากคำอีกหรือไม่คงขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่เราตรวจสอบหากยังมีข้อสงสัยในประเด็นใดก็จะต้องเรียกมาเข้าพบพนักงานสอบสวนอีก ขณะเดียวกัน เรื่องของเอกสารทางการเงินตัวจริงที่ได้รับจากธนาคารไทยพาณิชย์ก่อนหน้านี้ เราก็ตรวจสอบจนใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว คงต้องมีการตรวจพิสูจน์ลายมืออีก แต่สิ่งที่เป็นปัญหาติดขัดไม่ได้อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน เช่น กรณีการพิสูจน์ลายนิ้วมือ เราต้องส่งให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)ได้ตรวจสอบ แล้วแจ้งผลกลับมา
พ.ต.อ.ณษ กล่าวด้วยว่า คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะนำส่งเอกสารที่ต้องตรวจพิสูจน์ลายมือให้ทาง พฐ.ได้ทั้งหมด ส่วนกรณีของบุคคลที่พนักงานสอบสวนได้มีหมายเรียกให้เข้าพบแล้วยังไม่มาตามกำหนดอีก 3 ราย คงต้องพิจารณาเหตุผล ว่า เป็นเพราะเหตุใด หากไม่มีการประสานชี้แจงมาก็คงต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าจะขออนุมัติศาลออกหมายจับฐานขัดหมายเรียกหรือไม่ ขอยืนยันว่า ขั้นตอนต่างๆ เราเร่งรัดดำเนินการอยู่โดยจะทันกำหนดภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้อย่างแน่นอน สามารถสรุปสำนวนคดีส่งอัยการได้อาจจะมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีเพิ่มเติมอีกก็ได้แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้