ASTVผู้จัดการ – ผบ.ตร.แถลงจับกุมตัวผู้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 13 ปลอมเป็นรายแรกๆ ระบุเป็นแนวร่วม นปช. เพชรบูรณ์ เจ้าตัวรับโพสต์ส่งให้สมาชิกเพจ 4 พันกว่าคนจริง อ้างรับเอกสารปลอมมาอีกต่อ โฆษก ตร.เผยยังควานหาคนทำเพิ่มเติม เบื้องต้นโดน 2 ข้อหา หมิ่นสถาบันฯ-พ.ร.บ.คอมฯ
วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.20 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ที่ทำแถลงการณ์ปลอมสำนักพระราชวัง ฉบับที่ 13 และมีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาได้แล้ว โดยเป็นชายชาว จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีอาชีพเป็นนักดนตรี ขณะนี้เจ้าหน้าที่คุมตัวสอบสวนอยู่ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เบื้องต้น เตรียมดำเนินคดี 2 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 และความผิดความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ โดยจะมีการแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จำนวน 4 นาย ได้ควบคุมตัว นายกฤษณ์ บุดดีจีน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 ถ.สามัคคีชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 และความผิดความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ กรณีที่มีการเผยแพร่แถลงการณ์ปลอมสำนักพระราชวัง ฉบับที่ 13 ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านมั่นคง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) ร่วมกันสอบปากคำ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนส่งตัวคืนให้เจ้าหน้าที่ทหารนำกลับไปควบคุมไว้ตามอำนาจกฎอัยการศึกไม่เกิน 7 วัน
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวภายหลังสอบปากคำ นายกฤษณ์ ว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ซึ่งทำงานและช่วยหัวหน้าแกนนำ นปช.จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ อยู่ในพื้นที่ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโพสต์เอกสารดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้เป็นคนทำแถลงการณ์ขึ้นมาโดยรับมาจากแนวร่วม นปช.อีกคน และเจตนาโพสต์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นข้อมูลใหม่ จึงต้องการเผยแพร่ไปยังสมาชิกในเฟซบุ๊กที่มีอยู่กว่า 4 พันคนให้รับทราบ ส่วนข้อเท็จจริงผู้ต้องหาจะเกี่ยวข้องอย่างไรนั้น กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยลิงก์กับทวิตเตอร์ในชื่อ @NessOishii เมื่อเวลาประมาณ 21.33 น.วันที่ 2 ก.พ.ซึ่งจากหลักฐานที่ตรวจสอบพบว่า นายกฤษณ์ เป็นผู้เผยแพร่ต่อเอกสารดังกล่าวในระดับต้นๆ โดยเจ้าหน้าที่สามารถสืบสวนจนรู้ว่าข้อมูลถูกส่งมาโดยผู้ต้องหาคนนี้ ซึ่งพบว่าหลังข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ และนายกฤษณ์ ได้นำข้อความมาโพสต์ต่อในเวลาใกล้เคียงกับข้อความแรกเป็นอย่างมาก เชื่อว่านายกฤษณ์เป็นผู้โพสต์ข้อความเป็นคนที่ 2 หรือ 3 รองจากผู้สร้างเอกสารดังกล่าว ส่วนผู้ผลิตหรือปลอมแปลงเอกสารขึ้นมานั้นยังไม่ทราบว่าเป็นบุคคลใด ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งแกะรอยบุคคลดังกล่าว จากการตรวจสอบ URL เชื่อว่าขณะนี้ยังอยู่ในประเทศไทย พร้อมได้ยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่บ้านของนายกฤษณ์ มาตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมในการขยายผลต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 7 วัน ส่วนข้อหาเบื้องต้น เตรียมดำเนินคดีข้อหา หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
"จากการสอบสวนนายกฤษณ์ บอกว่าได้รับข้อมูลมาจึงโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ แต่เพียงไม่กี่นาทีก็รีบลบออก เนื่องจากพบความผิดปกติของรูปแบบอักษรและการสะกดคำ ซึ่งหลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกโพสต์คาดว่าเพื่อนสมาชิกน่าจะนำไปแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว และเจ้าตัวคิดว่าเป็นข้อมูลใหม่ไม่มีใครเคยโพสต์จึงคิดว่าเพื่อนในกลุ่มน่าจะสนใจ อย่างไรก็ตามระบบยังทิ้งร่องรอยสามารถติดตามเส้นทางการโพสต์ได้ หลังจากนี้ทหารจะรับตัวกลับไปควบคุมต่อตามกฎอัยการศึกไม่เกิน 7 วัน ระหว่างนี้ตำรวจต้องเร่งสอบสวนหาต้นตอให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ เพื่ออนุมัติออกหมายจับต่อไป แต่จากข้อมูลขณะนี้คงหนีไม่พ้นกลุ่ม นปช. น่าจะอยู่ในกลุ่มนั้นคือเพื่อนในกลุ่มส่งต่อมาให้ ซึ่งนายกฤษณ์ ก็ถือเป็นคนโพสต์อันดับต้นๆ โดยเผยแพร่ที่บ้าน จ.เพชรบูรณ์ ตอนนี้ใกล้ถึงคนโพสต์คนแรกเต็มทีแล้ว" พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า เบื้องต้นทราบว่าบุคคลที่ผู้ต้องหารับข้อมูลมาเป็นสมาชิกกลุ่ม นปช. จ.เพชรบูรณ์ เช่นเดียวกัน มีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมาโดยตลอด แต่จากการตรวจสอบไม่พบประวัติการกระทำความผิดทางคดี เพียงแต่มีแนวคิดทางการเมืองสอดคล้องกับกลุ่มเสื้อแดงเพชรบูรณ์เท่านั้น และทราบว่านายกฤษณ์ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหัวหน้าขบวนการเสื้อแดง จ.เพชรบูรณ์ และเคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. เกือบทุกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงหัวหน้า นปช. จ.เพชรบูรณ์