xs
xsm
sm
md
lg

จี้คดียิง “สุทิน” ดับบนรถปราศรัย หลังครบ 1 ปีคดีไม่คืบ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


มารดา “สุทิน ธราทิน” อดีตแกนนำ กปค.ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.ติดตามความคืบหน้าการเสียชีวิตครบรอบ 1 ปี เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุมที่หน้าวัดศรีเอี่ยม



วันนี้ (26 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางสาโรจน์ ธราทิน มารดานายสุทิน ธราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำ กปปส. นายทศพล แก้วทิมา แกนนำ กคป. พร้อมตัวแทนประชาชนกว่า 20 คน เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าคดีหลังครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตของนายสุทิน บริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม ย่านบางนา เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2557 โดยมี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เดินทางมารับหนังสือ

โดยหนังสือระบุว่า ตามที่ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ประชาชนกลุ่ม กคป.ซึ่งได้ไปคัดค้านการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อนวันเลือกตั้ง หรือ เลือกตั้งล่วงหน้า วันที่ 26 ม.ค. 2557 ณ หน่วยเลือกตั้ง วัดศรีเอี่ยม แขวงและเขตบางนา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มหน้าหน่วยเลือกตั้ง เป็นเหตุให้นายสุทินถูกยิงเสียชีวิต และประชาชนถูกยิงได้รับบาดเจ็บหลายราย เป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ภาพเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ทางสื่อมวลชนและสื่อออนไลน์ปรากฏภาพคนร้ายชัดเจน แต่การคลี่คลายคดีเป็นไปอย่างล่าช้า ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2557 ศาลจังหวัดพระโขนงได้ออกหมายจับนายสุรกริช ชัยงมงคล ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น และข้อหาอื่นๆ โดยนายสุรกริชถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2557 แต่ต่อมานายสุกริชได้เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2557 โดยมีรายงานข่าวว่านายสุรกริชมีโรคประจำตัวหอบหืด ทั้งนี้ ก่อนเสียชีวิตเจ้าหน้าที่เรือนจำระบุว่านายสุรกริชมีอาการอ่อนเพลีย หายใจไม่ออก จึงนำส่ง รพ.ราชทัณฑ์ และเสียชีวิต ในขณะที่มารดานายสุรกริชไม่เชื่อว่าบุตรชายเสียชีวิตเพราะโรคหอบหืด เพราะไม่มีประวัติการป่วยด้วยโรคนี้ รวมทั้งนายสุรกริชเคยพูดว่าอาจเสียชีวิตระหว่างถูกคุมขัง ด้วยเหตุนี้เชื่อว่าการฆาตกรรมและการคลี่คลายคดียิงนายสุทินมีเงื่อนงำและเกรงว่าจะไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเลย

“วันนี้เป็นวันครบ 1 ปีที่นายสุทินถูกฆาตกรรม แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่สามารถคลี่คลายเงื่อนงำของคดีได้ ข้าพเจ้าในฐานะมารดาซึ่งมีอำนาจจัดการแทนนายสุทิน จึงอนุเคราะห์พบท่านในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบถามและทราบข้อมูลและแนวทางการดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกรณีการเสียชีวิตของนายสุทิน และขอทราบข้อมูลเหตุการเสียชีวิตของนายสุรกริช ชัยมงคล รวมทั้งข้อมูลการชันสูตรพลิกศพและการไต่สวน” หนังสือดังกล่าวระบุ

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ที่เดินทางมาวันนี้เพราะต้องการทราบความคืบหน้าคดียิงนายสุทิน หลังมีการออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อ 1 ราย และอีกรายสามารถจับกุมนายสุรกริช ชัยมงคล ได้เมื่อช่วงกลางปี 2557 แต่ในเวลาต่อมานายสุรกริชเสียชีวิตภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยตั้งข้อสงสัยว่าการเสียชีวิตดังกล่าวมีความผิดปกติหรือไม่ และผู้ที่ถูกจับเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริงหรือไม่ อีกทั้งสงสัยว่ากรณีนี้มีผู้อยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่ เนื่องจากคดีมีความล่าช้าผ่านมานานกว่า 1 ปียังไม่มีความคืบหน้า แต่ยืนยันว่าโดยส่วนตัวยังเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายทศพลกล่าวว่า ต้องขอบคุณตำรวจทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติที่ให้ความสำคัญในการเร่งคลี่คลายคดียิงนายสุทิน ที่ผ่านมาตนเองและกลุ่ม กคป.ติดตามคดีนี้มาโดยตลอด แต่ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารนายสุทิน ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคดีนี้ล่าช้าเพราะไม่มีความชัดเจนเรื่องนโยบาย เพราะอยู่ระหว่างการคัดเลือก ผบ.ตร. แต่เมื่อได้ตัวผู้นำองค์กรตำรวจแล้วตนก็ได้ติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอด จนครบ 1 ปีของการเสียชีวิตของนายสุทิน คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ตำรวจจะบอกกับสังคมว่าคดีนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหน เหตุใดสำนวนคดียังไม่มีการสรุปสำนวนส่งฟ้อง

“อีกปมสงสัยที่สำคัญ คือ การเสียชีวิตของนายสุรกริช ผู้ต้องหาในคดีนี้ที่ถูกควบคุมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เสียชีวิตเพราะเหตุใดกันแน่ ส่วนกรณีนายธวัชชัย พรมจันทร์ ที่ถูกตำรวจจับกุมและถูกแจ้งข้อกล่าวหาคนแรก ทั้งที่ไม่มีความผิด ตำรวจดำเนินการกับกรณีนี้อย่างไร และชายไทยไม่ทราบชื่อที่ถูกออกหมายจับในคดีนี้ด้วย ตำรวจได้ติดตามจับกุมชายคนนี้ได้แล้วหรือไม่อย่างไร นี่เป็นคำถามที่เราต้องการคำตอบจากตำรวจ” นายทศพลกล่าว

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า จากการสอบถามทีมสืบสวนคดีนี้ได้ข้อมูลว่า สำหรับคดีนี้ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 1 คน คือ นายสุรกริช และมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับชายไทยไม่ทราบชื่อ มีตำหนิรูปพรรณพอสมควร แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามตัวมาได้ ส่วนเรื่องการสรุปสำนวนส่งฟ้อง แม้ว่าในชั้นแรก จากพยานหลักฐานต่างๆ อาทิ พฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงและมีการตรวจยึดอาวุธปืนได้ เหล่านี้พอที่จะส่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ แต่ปรากฏว่านายสุรกริช ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตัวหลักได้เสียชีวิตไป ทำให้พนักงานยังไม่สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของนายสุรกริช ก็เป็นเรื่องของทางเรือนจำ เพราะเป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

“ยืนยันว่าในส่วนของตำรวจได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ รอบคอบรัดกุมแล้ว แต่อาจจะยังมีประเด็นที่ยังเคลือบแคลงสงสัยก็จะกำชับไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลให้มีการทบทวนพยานหลักฐานอีก 1 รอบ เร่งรัดติดตามผู้ต้องหาที่เหลือ และติดตามผู้ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้เพิ่มเติม รวมทั้งถ้าจากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้บงการ หรือผู้กระทำผิดรายอื่นอีกก็ต้องเอาตัวมาดำเนินคดีให้ได้ จะลงไปดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด” โฆษก ตร.กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น