ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ปอศ.จับชุดเครื่องนอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนละเมิดลิขสิทธิ์จากจีนล็อตใหญ่กว่า 40,000 ชิ้น มูลค่า 5-10 ล้านบาท หลังจากลักลอบขนผ่านท่าเรือแหลมฉบัง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (23 ม.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชวลิต แสงพืชน์ รอง ผบช.ก.รรท.ผบก.ปอศ พ.ต.อ.สมรักษ์ จูสนิท รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ภูธร ปริศนานันทกุล รอง ผบก.ปอศ พ.ต.อ.ณรงค์เดช กมลบุตร รรท.ผกก.2 บก.ปอศ. และพ.ต.อ.เมธี บุญสร้อย รอง ผกก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าลักลอบศุลกากร สินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าและละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น ชุดเครื่องนอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน และอื่นๆ อีกหลายรายการ จำนวนกว่า 40,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายประมาณ 5-10 ล้านบาท
พล.ต.ต.ชวลิตกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายจากประเทศจีน เข้ามายังประเทศไทยผ่านมาทางด่านศุลกากรแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าจะมีการลำเลียงสินค้าดังกล่าว ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.45 น.วานนี้ (22 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดแรกพบรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 70-3755 เชียงราย ขับออกมาจากตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มาตามเส้นทางจนกระทั่งถึงบริเวณแยกตลาดหนองชะอม อ.เมือง จ.นครนายก พบว่ามีลักษณะต้องสงสัยจึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้นพบนายจตุพร โคนสงแสง อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงราย เป็นผู้ขับขี่ ได้แจ้งว่าผู้นำเข้าสินค้า คือ บจก.ณัฐนัย อิมพอร์ท แอนด์ เอ็กซ์พอร์ท โดยจะนำสินค้าไปส่งให้ลูกค้ารายย่อยใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดที่ 2 พบรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 70-4391 เชียงราย ขับออกจากตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มาตามเส้นทางจนกระทั่งถึงบริเวณแยกบ้านนา อ.เมือง จ.นครนายก พบว่ามีลักษณะต้องสงสัยจึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้นพบนายนิด อรรถโย อายุ 47 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ขับขี่ โดยจะนำสินค้าไปส่งให้ลูกค้าใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้นำเข้าสินค้าคือ บจก.สมบูรณ์ทรัพย์ อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นสินค้าจำพวกผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน เครื่องหมายการค้าปลอมและละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของสินค้าไม่ตรงกับใบขนสินค้าขาเข้าที่สำแดงต่อศุลกากร
พล.ต.อ.เรืองศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าหน้าที่แจ้งข้อหาซื้อหรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันควรรู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อหาข้อจำกัด อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ทวิ อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับสี่เท่าของราคาของเมื่อรวมอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั่งจำทั้งปรับ, มีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 108 อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มีโทษปรับตั้งแต่ 50,000-400,000 บาท จำคุก 3 เดือน - 2 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าผู้กระทำความผิดทั้งสองมีการนำใบขนสินค้าเข้าสำแดงต่อกรมศุลกากรเพียงครั้งเดียว มาขนสินค้าหมุนเวียนกันหลายครั้งอีกด้วย
