xs
xsm
sm
md
lg

ยกฟ้อง “อนุดิษฐ์-จิรายุ” ไม่หมิ่น “กรณ์” พาดพิงอัปเกรดตั๋วบินไทย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ASTVผู้จัดการ - ศาลยกฟ้อง “อนุดิษฐ์-จิรายุ” อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยแถลงข่าว “กรณ์ จาติกวณิช” อดีต รมว.คลังอาจใช้อภิสิทธิ์อัปเกรดตั๋วการบินไทย ไม่หมิ่นประมาท ชี้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต

ที่ห้องพิจารณาคดี 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ม.ค. ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.868 /2553 ที่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางวรกร จาติกวณิช มอบอำนาจให้นายวัฒนา งอกขาว ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพรรคเพื่อไทย, นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าสินไหมทดแทนด้วย

คดีนี้โจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2552 ต่อเนื่องถึงวันที่ 27 ธ.ค. 2552 ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย จำเลยที่ 3 และ 4 กับพวกได้แจกเอกสารแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ทั้งสองและครอบครัวโดยการโฆษณาว่าได้รับการร้องเรียนจากพนักงานการบินไทยและผู้ถือหุ้นว่านายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง อาจมีการใช้อภิสิทธิ์ให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ทำการอัพเกรดบัตรโดยสารในการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 84, 86, 91, 326 และ 328 และขอให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์รวม 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ศาลได้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และ 2 ทั้งในคดีส่วนแพ่ง และส่วนอาญาตั้งแต่ในชั้นตรวจคำฟ้องและนัดไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 3 และ 4

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 และ 4 ร่วมกันแจกเอกสารและแถลงข่าวว่า โจทก์ที่ 1 ใช้อภิสิทธ์ทำการอัปเกรดบัตรโดยสารของตัวเองและครอบครัวในการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง ในการเบิกความตอบคำซักค้านต่อทนายจำเลย ฝ่ายโจทก์ก็ยอมรับว่าโจทก์ทั้งสองมีการอัปเกรดบัตรโดยสารหรือการปรับชั้นที่นั่งโดยสารจริง แม้จะอ้างว่าเป็นการอัปเกรดโดยชอบตามระเบียบของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่าเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน 2552 โจทก์มีการอัปเกรดบัตรโดยสารจากชั้นประหยัดไปชั้นธุรกิจและชั้น 1 รวม 14 ครั้ง โดยมีการเดินทางไปกรุงลอนดอน 11 ครั้ง เกาะบาหลี 2 กรุงปารีส 1 ครั้ง ตรงกับคำแถลงของจำเลย เห็นว่าจำเลยที่ 3 และ4 แถลงข่าวในฐานะคณะทำงานสำนักงานปราบโกงของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการร้องเรียนจากพนักงานการบินไทยและผู้ถือหุ้นว่า โจทก์ที่ 1 อาจมีการใช้อภิสิทธิ์ให้บริษัทการบินไทยทำการอัพเกรดบัตรโดยสาร เชื่อว่าน่าจะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ใน 2ลักษณะ คือ 1. โจทก์ที่ 1 อาจใช้อำนาจและอภิสิทธิ์ของ รมว.คลัง สั่งให้พนักงานที่มีอำนาจในการเลื่อนชั้นการเดินทาง ทำการอัพเกรดบัตรโดยสารโดยไม่มีการจ่ายค่าโดยสารเพิ่มเติม หรือ 2. ผู้มีอำนาจในการอัพเกรดบัตรโดยสารทำการเลื่อนชั้นการเดินทางให้โจทก์ที่ 1 และครอบครัว อาจเป็นเพราะเพื่อแลกกับผลประโยชน์บางอย่างหรือเพื่อความก้าวหน้าหรืออาจผู้มีอำนาจเหนือกว่าเป็นผู้สั่งการและการที่จำเลยใช้คำว่า “อาจมีอภิสิทธิ์สั่งการ” นั้น เชื่อว่าน่าจะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ชี้ให้เห็นว่าจำเลยมิได้ยืนยันว่าโจทก์ที่ 1 ใช้อำนาจสั่งการให้กระทำการดังกล่าว อีกทั้งจำเลยยังมีการระบุ ถึงวัตถุประสงค์ในการแถลงข่าวไว้ว่า ทางพรรคเพื่อไทยขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวและรียกร้องให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะแสดงความรับผิดชอบหรือออกมาชี้แจงต่อสังคมโดยเร็ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรมซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถกระทำได้ พิพากษายกฟ้องส่วนคดีอาญาและไม่รับฟ้องคดีส่วนแพ่ง

ภายหลัง น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า คดีนี้ศาลวินิจฉัยยกฟ้อง ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อตรวจสอบรัฐบาล ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งได้ทำการตรวจสอบเรื่องพฤติกรรมและการดำเนินการของนายกรณ์ขณะนั้นเป็นฝ่ายบริหาร ถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ

นายจิรายุกล่าวว่า เราเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ขณะนั้น ได้นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการอัปเกรดตั๋วเครื่องบินและน่าจะเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคตว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ต้องระมัดระวังในการอัปเกรดตั๋วเครื่องบินเพราะถือว่ามีมูลค่าเช่นกัน ส่วนทางพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ก็ยังอยู่นิ่งๆ เหมือนเดิม โดยเรียกร้องหาความยุติธรรมเป็นหลัก พอการเมืองไม่นิ่งมีความขัดแย้ง มีประเด็นเศรษฐกิจทำให้ประชาชนไม่มีความสุข ผ่านไปแล้ว 7-8 เดือนก็อยากให้นายกรัฐมนตรีขจัดปัดเป่าปัญหาเหล่านี้


น.อ.เอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ และ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย







กำลังโหลดความคิดเห็น