รอง ผบก.ป.เผยสองแม่ลูกผู้ต้องหาคดีเงินคงคลัง สจล.ยังไม่ปริปาก ลูกสาวอ้างเงินโอนแทงพนันบอล ทรัพย์สินได้จากกิจการฟาร์มไก่-ร้านสักคิ้ว ส่วนหมายจับอีก 4 รายมี 2 คนหลักฐานชัดเจน เชื่อมโยงเส้นทางโอนเงิน ขณะที “กิตติศักดิ์ มัทธุจัด” เผ่นจากเกาะฮ่องกงแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 ม.ค.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีลักเงินคงคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ภายหลัง พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาการ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุมนางสมบัติ โสประดิษฐ์ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ สองแม่ลูกผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบหลายรายการนั้น จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การวกวน สับสน และไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลที่มาที่ไปของเงินและทรัพย์สินทั้งหมด
พ.ต.อ.ณษกล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส.จันทร์จิรา อ้างว่าเงินได้รับการโอนมาจากนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ โดยระบุว่าเป็นเงินที่โอนมาเพื่อใช้แทงพนันผลฟุตบอล ส่วนทรัพย์สินรายการต่างๆ ได้มาจากเงินที่ทำกิจการฟาร์มไก่ชนใน จ.สุพรรณบุรี ของนายปฐมพงศ์ ศรีโรจน์ แฟนหนุ่มของ น.ส.จันทร์จิรา และบางส่วนก็ได้มาจากการเปิดกิจการร้านรับสักคิ้ว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดยพนักงานสอบสวนได้เตรียมคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีผัดฟ้องฝากขังเป็นครั้งแรกช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น พนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติมอีก 4 รายในเร็วๆ นี้ โดย 2 ใน 4 เป็นคนบุคคลที่มีความสนิทสนมกับนายกิตติศักดิ์ ตำรวจมีหลักฐานชัดเจน และมีความเชื่อมโยงกับเส้นทางการโอนเงิน แต่อีก 2 รายยังต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม
สำหรับนายกิตติศักดิ์ผู้ต้องหารายสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่นั้น พบว่าได้เดินทางออกจากฮ่องกงแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าหลบหนีไปประเทศใด ส่วนนายสมพงษ์ สหพรอุดมการ บิดาของนายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ ซึ่งยังหลบหนี ล่าสุดได้รับการประสานว่าจะขอเข้ามอบต่อพนักงานสอบสวน แต่ยังไม่ได้ระบุวันเวลาใด
ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี เมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.ท.ธิติ เปฏะพันธุ์.พนักงานสอบสวน กก.1ป.ควบคุมตัว นางสมบัติ โสประดิษฐ์ อายุ 44 ปี และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ อายุ 27 ปี สองแม่ลูก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันยักยอกเงินกองคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มูลค่า 1,600 ล้านบาท ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-19 ม.ค.นี้เนื่องจากยังต้องสอบพยานบุคคลอีก 25 ปากและรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2557 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ โดยมอบอำนาจให้ น.ส.วรวรรณ สุวรรณกุฏ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ และน.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนการคลัง สจล.และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีที่ได้ร่วมกันทุจริตถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของสถาบัน ต่อมาพนักงานสอบสวนได้พบพยานหลักฐานการโอนเงินที่ได้จากการทุจริตดังกล่าวมาเข้าบัญชีเงินฝาก นางสมบัติ ผู้ต้องหาที่ 1 จำนวน 6 ล้านบาทและโอนเข้าบัญชี น.ส .จันทร์จิรา ผู้ต้องหาที่ 2 จำนวน 46 ล้านบาท จึงเห็นว่าผู้ต้องหา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายทรงกลดและน.ส.อำพร ซึ่งจับกุมตัวดำเนินคดีไว้แล้ว และการกระทำดังกล่าวเป็นการช่วยจำหน่ายซ่อนเร้นปิดบังโยกย้ายถ่ายเท ทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดเข้าลักษณะเป็นการฟอกเงิน ซึ่งภายหลังศาลได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน โดยเมื่อวันที่ 6ม.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามสามารถจับตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้พร้อมส่งตัวดำเนินคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ ,ร่วมกันฟอกเงิน ,ร่วมกันสนับสนุนพนักงานผู้มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆใช้อำนาจหน้าที่ในการทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่องค์การ , ร่วมกันสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265 ,268 ,335 (7) ,พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 (1) และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และ 11 ซึ่งชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แขวง-เขตลาดกระบัง กทม. เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2557
ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ โดยวันนี้ญาติของผู้ต้องหาทั้งสองไม่ได้ยื่นขอประกันตัวแต่อย่างใดเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปยังเรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป