ผู้ขับขี่ จยย. ที่ได้รับบาดเจ็บจากสายโทรศัพท์ที่ห้อยตกลงมากลางถนน ย่านพุทธมณฑลสาย 1 แจ้งความดำเนินคดีกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ เกรงชาวบ้านที่ขับขี่รถผ่านไปมาจะประสบอุบัติเหตุซ้ำซ้อนอีก
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่ สน.บางเสาธง นายปรีเปรม วาววัตร อายุ 52 ปี พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วีระชัย กวีกิจดุรงค์ พนักงานสอบสวน สน.บางเสาธง กรณีตกเป็นผู้เสียหายจากการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์เกี่ยวกับสายโทรศัพท์ที่ห้อยตกลงมากลางถนน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณทางตัดใหม่ช่วงหลังวัดใหม่เทพพล ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กทม. เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา
นายปรีเปรม ให้การว่า ปัจจุบันตนเปิดกิจการรับซ่อมไฟฟ้าและแอร์ตามบ้าน เช่าร้านอยู่บริเวณถนนบางระมาด ใกล้กับเนติบัณฑิตยสภา ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 05.00 น. ของวันที่ 23 ธ.ค. 57 ตนได้ขี่รถ จยย. ส่วนตัวออกจากสำนักงาน มุ่งหน้าไปทางกาญจนาภิเษก แล้ววกเข้าทางตัดใหม่ด้านหลังวัดใหม่เทพพล มุ่งหน้าไปหาข้าวเช้ากินแถวสามแยกไฟฉายเพื่อเตรียมกลับมาเปิดร้านตามปกติ โดยทางตัดใหม่ดังกล่าวนั้นเป็นถนนเดินรถได้ 3 ช่องทางการจราจร ตนขับขี่มาตามช่องทางที่ 2 ปรากฏว่า ขณะที่กำลังแล่นผ่านหลังวัดใหม่เทพพล ได้มีสายโทรศัพท์ไม่ทราบหน่วยงานตกหล่นลงมาจากเสาไฟฟ้าห้อยขวางถนนอยู่ ประกอบกับจุดนั้นไม่มีไฟส่องทาง จึงพุ่งชนเข้าเต็มๆ สายไฟพันเข้าไปในล้อด้านหน้าของรถ จยย. จนพลิกคว่ำ เป็นเหตุให้ตนได้รับบาดเจ็บ โดยหลังเกิดเหตุตนยังลุกขึ้นมาโบกรถแจ้งเตือน รถ จยย. ที่ขับตามหลังมา เกรงว่าชาวบ้านจะประสบอุบัติเหตุซ้ำซ้อน กระทั่งมีพลเมืองเข้ามาสอบถามและโบกมอเตอร์ไซค์รับจ้างพาตนไปส่งรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.ธนบุรี 2 แพทย์ต้องผ่าตัดใส่นอตที่สะโพก จำนวน 3 ตัว ผ่าตัดดามกระดูกข้อศอกขวาที่หัก นอกจากนี้ ยังมีบาดแผลเย็บที่เท้า แขนขา และตามร่างกายหลายแห่ง ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันนั้น จนถึงช่วงเที่ยงของวันนี้เพิ่งได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ จนตนไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ และที่สำคัญจะได้ไม่มีผู้ใดมาประสบเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก จึงตัดสินใจปรึกษาทนายความก่อนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบ
นายปรีเปรม ให้การต่อว่า ตนไม่ได้หัวหมอหรือมาแจ้งความ เพราะหน้าเลือดอยากได้เงินค่ารักษาพยาบาล หรือเงินทำขวัญแต่อย่างใด เพราะมีสิทธิ์รักษาตัวจากประกันชีวิตที่ทำไว้กับบริษัทแห่งหนึ่งอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาตนเคยช่วยเหลือคนขับขี่ รถ จยย. เฉี่ยวชนแท่งแบริเออร์จนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาครั้งหนึ่ง ส่วนตรงจุดที่ตนเฉี่ยวชนสายโทรศัพท์กลางถนนนั้น ก็มีชาวบ้านเล่าว่า เคยมีผู้ประสบเหตุมาก่อนหน้าตนถึง 2 ราย แต่ไม่มีใครเข้าแจ้งความเนื่องจากเกรงว่าจะไร้ประโยชน์ ในส่วนของตนนั้นเข้าแจ้งความก็เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบทางตัดใหม่สายนี้ได้เห็นถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ทาง ซึ่งหากจะอ้างว่าถนนยังไม่เปิดใช้เป็นทางการก็ควรปิดไม่ให้ผู้ใดสัญจร ไม่ใช่ยังปล่อยให้รถสามารถแล่นผ่านไปมาได้เหมือนอย่างที่เป็นอยู่
ด้าน นายพรศักดิ์ ทนายความกล่าวว่า วันนี้พาลูกความเข้ามาแจ้งเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้รับผิดชอบจากอุบัติเหตุครั้งนี้ซึ่งเรื่องการเรียกร้องทางแพ่ง นั้น นายปรีเปรม สามารถฟ้องร้องได้ตามสิทธิ์อยู่แล้ว โดยตนมองว่า การออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมในวันนี้ก็เพื่อไม่ให้มีผู้เสียหายจากความประมาทเลินเล่อของผู้รับเหมาหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องอีก
ด้าน ร.ต.ท.วีระชัย กล่าวว่า หลังรับแจ้งความได้พาผู้เสียหายไปดูจุดเกิดเหตุแล้วพบสายโทรศัพท์บริเวณดังกล่าวถูกเก็บเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ทางผู้เสียหายได้บันทึกภาพตอนสายห้อยระโยงระยางเอาไว้เป็นหลักฐานได้ในวันที่เกิดเหตุ เรื่องนี้สามารถเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทางแพ่งได้ แต่ยังต้องรอผลการสอบสวนเสียก่อนว่าสายโทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของหน่วยงานใด ซึ่งจะเสนอให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อสั่งการตามหาผู้รับผิดชอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป