รถไฟชนวิน จยย.ทางตัดข้ามราง ย่านร่มเกล้าดับ

เกิดเหตุรถไฟขบวนอรัญประเทศ-กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บริเวณทางตัดข้ามรางซอยร่มเกล้า 27 คนขับขี่กระเด็นไปเสียชีวิตบริเวณพงหญ้าข้างทาง

วันนี้ (24 ธ.ค.) ร.ต.ท.คิมหันฐ์ ศรีสุพรรณ พนักงานสอบสวน สน.ลาดกระบัง รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกรถไฟชนเสียชีวิต บริเวณหลังโรงเรียนวัดลาดกระบัง (ศีลาภิรัตอุปถัมภ์) ภายในซอยร่มเกล้า 27 ถนนร่มเกล้า แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังโรงเรียนดังกล่าวซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็ก บริเวณริมทางรถไฟพบศพนายรุ่งธรรม สมบูรณ์ อายุ 43 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าข้างริมรถไฟ สภาพศพกระดูกหักทั่วทั้งร่าง ใกล้กันพบจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ซีซี สีน้ำเงิน ทะเบียน สทษ 793 กทม. ในสภาพพังยับเยิน โดยได้เฉี่ยวชนกับรถไฟสายอรัญประเทศ-กรุงเทพมหานคร ทางเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจพิสูจน์

จากการสอบสวนนางมณี แม้นรัตน์ อายุ 45 ปี ภรรยาของผู้ตายให้การว่า ขณะเกิดเหตุนายรุ่งธรรมได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าให้เดินทางขับรถไปซื้ออาหาร ก่อนจะขับรถจยย.ออกจากที่พัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางข้ามทางรถไฟที่ชาวบ้านในละแวกนั้นทำขึ้นมาเพื่อใช้สัญจรแต่มีความลาดชัน ผู้ตายได้ขับขี่จักรยานยนต์ขึ้นไปทันที ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวรถไฟได้ผ่านมาพอดีจึงเกิดเหตุสลดดังกล่าว โดยทางญาติไม่ติดใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ก่อนรับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านได้ทำทางตัดผ่านทางรถไฟขึ้นมาเพื่อใช้สัญจรและใช้เดินทาง และเคยเกิดเหตุการณ์รถไฟเฉี่ยวชนผู้ที่ใช้เส้นทางมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่เคยมีใครเสียชีวิต โดยทางชาวบ้านได้เคยติดต่อไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ติดแผงกั้น หรือสัญญาณเตือนรถไฟ แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าดำเนินการและอ้างว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่ไม่ใช่จุดเสี่ยง รวมถึงงบประมาณในการจัดการไม่เพียงพอ

ด้านนายพรสุทธิ ทองสาด หัวหน้าสำนักงาน ร.ฟ.ท. ผู้ดูแลด้านความปลอดภัยในการเดินรถ กล่าวว่า ได้รับรายงานอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนกับจักรยานยนต์จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าวแล้ว บริเวณดังกล่าวเป็นทางแอบผ่านที่อยู่ในพื้นที่ของสถานีรถไฟลาดกระบัง สาเหตุเกิดจากชาวบ้านไม่ระมัดระวังข้ามทางรถไฟโดยไม่สังเกตว่ามีขบวนรถไฟผ่านมา บริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวมักจะมีจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงได้ทำขึ้นเป็นทางผ่านเพื่อใช้สัญจรผ่านไปมา โดยจุดดังกล่าวสามารถผ่านได้เฉพาะจักรยานยนต์เท่านั้น เพราะเป็นทางแคบ ทางเจ้าหน้าที่พยายามป้องกันโดยทำป้ายเตือนให้ระวังรถไฟ และเคยมีข้อพิพาทกับประชาชนในพื้นที่ทำให้ไม่สามารถปิดทางดังกล่าวได้ เพราะประชาชนต้องกลับรถไกล ต่อไปอาจต้องหามาตรการหรือวิธีการป้องกัน อาจจะต้องติดตั้งไฟวาบเตือนเพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ดี ประชาชนที่จะสัญจรข้ามทางไปมาจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย