นครบาลวางมาตรการเข้มเคานต์ดาวน์เซ็นทรัลเวิลด์

ตำรวจนครบาลวางมาตรการดูแลความปลอดภัยเคานต์ดาวน์ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วางกำลัง 1,800 นายดูแลโดยรอบ คาดมีคนร่วมงานกว่า 1 แสนคน ห้ามพกพาอาวุธ ประทัด ดอกไม้ไฟ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาในพื้นที่

วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้ประชุมการดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในวันที่ 31 ธ.ค. 57 เวลา 18.00-01.30 น.ของวันเริ่มต้นใหม่ปีใหม่ไทย 2558 บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กทม.ว่า ทาง บช.น.ได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยตลอดจนการอำนวยความสะดวกและการแก้ไขปัญหาการจราจรของประชาชนที่มาร่วมงาน คาดว่าปีนี้จะมีประชาชนมาร่วมงานถึง 100,000 คน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยจะมีการจีดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า และที่ทำการส่วนหน้า รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์การประสานงานหน่วยต่างๆ ภายในงานจำนวน 8 จุด โดยจะเปิดทำการวันที่ 31 ธ.ค. 57 เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น.จำนวน 1,800 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน (อคฝ.) ทั้งชายและหญิง ดูแลประชาชนที่มาร่วมงานรวมทั้งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แบ่งออกเป็นพื้นที่ชั้นในจะมีมาตราการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด กำหนดช่องทางเข้า-ออกของงาน 2 จุด ตั้งแต่แยกราชประสงค์ถึงแยกประตูน้ำ โดยใช้อุปกรณ์ตรวจค้นโลหะ วัตถุระเบิด กล้องวงจรปิด และมอนิเตอร์ทุกทางเข้า-ออก และจัดเตรียมรถควบคุมผู้ต้องหาไว้ 2 คันกรณีเกิดเหตุการวุ่นวายจนไม่สามารถควบคุมไว้ได้

พล.ต.ต.ชนสิษฎ์กล่าวว่า ส่วนข้อห้ามในการเข้าร่วมงานคือ ห้ามพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด พลุ ดอกไม้ไฟ ประทัด ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าในงาน ห้ามบุคคลที่มีสภาพมึนเมาจนไม่สามารถควบคุมสติไว้ได้ซึ่งอาจจะถูกควบคุมตัวไว้บนรถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เตรียมไว้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ บริเวณพื้นที่จัดงาน เพื่อบริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาร่วมงาน อาทิ จัดชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ให้ตรวจสอบพื้นที่จัดงานก่อนเริ่มงาน โดยจะเน้นตรวจถังขยะ ตู้โทรศัพท์ กระถางต้นไม้ ในบริเวณพื้นที่จัดงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนที่มาร่วมงาน และจัดเตรียมแพทย์และพยาบาลจากศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ ศูนย์การแพทย์กรุงเทพมหานคร พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 5 คันเพื่อบริการและช่วยเหลือประชาชน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 2 คัน รถดับเพลิง 3 คัน และรถสุขา 7 คัน

ส่วนเส้นทางการอพยพประชาชนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน มีทั้งหมด 6 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1-2 ช่องทางเข้า-ออกของงานฝั่งแยกราชประสงค์ และ ฝั่งแยกประตูน้ำ, จุดที่ 3 ซอยระหว่างห้างสรรพสินค้าเกษรพลาซ่า และ Urban Space, จุดที่ 4 ซอยระหว่าง Urban Space และโรงแรมอโนมา, จุดที่ 5 ซอยระหว่างโรงแรมอโนมา และ Big C และจุดที่ 6 ซอยด้านข้าง Big C ฝั่งสะพานเฉลิมโลก ซึ่งจะมีมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร แบ่งออกเป็น 2 หัวข้อ คือ 1. บช.น. ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่ประชาชน จำนวน 300 นาย ประกอบด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของสถานีตำรวจในพื้นที่ต่างๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลาง 2. การปิดการจราจรในบริเวณที่มีการจัดงาน (2.1 แยกราชประสงค์ถึงแยกประตูน้ำ จะปิดการจราจรในวันที่ 31 ธ.ค.57 เวลา 17.00 - 03.00 น. (2.2 แยกชิดลม ถึงแยกราชประสงค์, แยกราชดำริถึงแยกราชประสงค์, แยกเฉลิมเผ่าถึงแยกราชประสงค์ จะปิดการจราจรในวันที่ 31 ธ.ค.57 เวลา 19.00-03.00 น. (ส่วนพื้นบริเวณโดยรอบจะมีการพิจารณาตามสถานการณ์ และการกำหนดช่วงเวลาของการปิดการจราจร อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้จัดงานฯ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่ใช้รถให้น้อยที่สุด)

(2.3 บริเวณที่ห้ามจอดรถโดยเด็ดขาด คือ ถนนราชดำริทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกราชประสงค์, ถนนสารสินทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกสารสิน, ถนนหลังสวนทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกหลังสวนถึงแยกชิดลม, ถนนชิดลมทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกชิดลมถึงปากซอยราชดำริ 2 และถนนพระราม 1 ทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกราชประสงค์ถึงแยกเฉลิมเผ่า (2.4 การประชาสัมพันธ์ การกำหนดขั้นตอนการจัดงาน การปิดกั้นการจราจร ข้อมูลเส้นทางจราจร พื้นที่ห้ามจอดซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้ที่ www.police.go.th. เว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) www.saranitet.police.go.th. เว็บไซต์กองสารนิเทศในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ www.metro.police.go.th. เว็บไซต์กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)

ทั้งนี้ การตรวจสอบข้อมูลในปัจจุบันสามารถติดต่อได้โดยตรงของกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 หรือรับฟังข้อมูลข่าวสารได้ที่คลื่นวิทยุ FM สวพ.91, FM 99.5, จส.100 และมอบหมายงานให้กองอำนวยการร่วมของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ประสานการปฏิบัติกับ บก.02 ในการสำรวจและรายงานข้อมูลสภาพการจราจรให้กับประชาชนทุกคนได้รับทราบทุกครึ่งชั่วโมงทางคลื่นวิทยุดังกล่าว