ปปง. แถลงยึดทรัพย์สินอดีต ผบช.ก. กับพวกรอบ 3 กว่า 3,000 รายการ ประมาณ 27,000 ชิ้น มูลค่ารวมประมาณ 1 พันล้าน อาทิ ทองคำแท่ง ธนบัตรสกุลต่างๆ วัตถุโบราณและพระเครื่อง ฯลฯ ซึ่งเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด ในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการ จึงเข้าข่ายผิดตาม กม. ฟอกเงิน และถูกตรวจยึดอายัดให้ตกเป็นของแผ่นดิน
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย พ.ต.ท.หญิง เอมอร ไชยบัวแดง รองเลขาฯ ปปง. ร่วมแถลงผลการยึดทรัพย์ชุดที่ 3 ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. กับพวก จำนวนกว่า 3,000 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท โดย ปปง. ได้นำทรัพย์สินบางส่วนมาแสดง อาทิ เงินบริสุทธิ์เม็ดเล็กๆ น้ำหนัก 120 กก. มูลค่า 1.7 ล้านบาท ทองคำแท่งหนัก 1 กก. หลายแท่ง ทองคำรูปพรรณ สร้อยคอฝังเพชร นาฬิกาหรู ธนบัตรสกุลหลายสกุลเงิน เป็นต้น
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า จากการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 17/2557 ในวันนี้ (23 ธ.ค.) ปปง. ได้เสนอเรื่องการตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ต่อคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อพิจารณายึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม โดยทรัพย์สินที่เสนอให้คณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึดในครั้งนี้ เป็นทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ได้ทำการอายัดไว้ โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 จำนวนกว่า 3,000 รายการ ประมาณ 27,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยจัดเป็นกลุ่มได้ดังนี้ 1. เงินสด เช่น ธนบัตรเงินไทย 3,950,024 บาท ธนบัตรเงินสหรัฐฯ 57,000 ดอลลาร์ ธนบัตรเงินยูโร 5,300 ยูโร ธนบัตรเงินอังกฤษ 11,435 ปอนด์ ธนบัตรเงินฮ่องกง 92,540 ดอลลาร์ ธนบัตรเงินญี่ปุ่น 3,600,000 เยน เป็นต้น 2. ทองรูปพรรณ 3. ภาพวาด และศิลปวัตถุ 4. พระเครื่อง และวัตถุมงคล 5. ของเก่า ของโบราณ เครื่องลายคราม และเบญจรงค์ 6. อัญมณีและเครื่องประดับ 7. เครื่องเฟอร์นิเจอร์ไม้ 8. วัตถุโบราณ 9. รถยนต์ 10. ทรัพย์สินอื่นๆ
“ทรัพย์สินดังกล่าวตรวจยึดได้จากบ้านพัก อาคารชุด หรือคอนโดมิเนียม และห้องนิรภัยในอาคารพาณิชย์ ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ และ นางปิยพรรณ ชินนะประภา น้องสาว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดมูลฐาน เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หรือเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินดังกล่าว โดยเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพเป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนไม่มากนัก ประกอบกับทรัพย์สินดังกล่าวได้มาในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการและมีพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ซึ่งทรัพย์สินจำนวนกว่า 3,000 รายการ ประมาณ 27,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก และผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ เชื่อว่า ได้มาในระหว่างที่มีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีจำนวนผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นแต่ละครั้ง เกินกว่าหนึ่งร้อยคนหรือมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมูลค่าเกินกว่าสิบล้านบาทขึ้นไปเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเนื่องมาจากการกระทำความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) (9) และเป็นความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542” พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินที่ยึดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าไม่เสื่อมมูลค่า และมูลค่าเพิ่มในอนาคต อาทิ ทองคำ เงิน เครื่องเพชรเหรียญกษาปณ์โบราณ และเครื่องประดับต่างๆ จะตกเป็นของแผ่นดินโดยจะ เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ และในที่ปลอดภัยความมั่นคงสูง
ส่วนอีกประเภทเป็นทรัพย์สินที่ยึดมาแล้ว สามารถเสื่อมคุณค่าและราคา และไม่มีประโยชน์ในการเก็บรักาไว้ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ถ้วยชามเบญจรงค์ เป็นต้น โดยจะประเมินทรัพย์สินช่วงเดือน ม.ค. 58 นี้ พร้อมประกาศขายทอดตลาดในเดือน ก.พ. 58 สำหรับวัตถุโบราณที่มีการตรวจอายัดไว้นั้นทางกรมศิลปากรจะทำการเก็บรักษาไว้ หลังจากนี้ ปปง. จะติดตามทรัพย์สินและสมบัติของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวกต่อไป