ตร.ยันดาราหนุ่ม “กันต์ กันตถาวร” ไม่มีเจตนาลักกุญแจรถคู่กรณี ขณะที่อีกฝ่ายพร้อมเจรจา อยากจบด้วยดี

ตำรวจระบุดาราหนุ่ม “กันต์ กันตถาวร” ไม่มีเจตนาลักทรัพย์กุญแจรถหนุ่มคู่กรณี ส่วนความผิดฐานดูหมิ่น - ทำร้ายร่างกาย พบว่าบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ผิดแค่เปรียบเทียบปรับ ส่วนที่ดาราหนุ่มแจ้งความกลับชนแล้วหนี ต้องรอผลตรวจรถทั้ง 2 ฝ่ายจาก พฐ. ย้ำอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกัน ด้าน ผจก.หนุ่ม ยันพร้อมเจรจาอยากให้จบลงด้วยดี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (19 ธ.ค.) พ.ต.อ.น้ำเพชร ทรัพย์อุดม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ (หน.) สน.โชคชัย กล่าวถึงกรณีที่ นายกานต์ ไตรอัมพวงศ์ อายุ 30 ปี ผู้จัดการการตลาด บริษัท ดันฮัมบี้ จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ไอศวรรย์ ปฐมสันติพงศ์ พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับดารานักแสดงหนุ่ม กันต์ กันตถาวร ใน 3 ข้อหา ได้แก่ ลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และดูหมิ่น หลังจากขับรถเฉี่ยวชนกันภายในซอยโยธินพัฒนา 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จนถูกดาราหนุ่มตบหน้าและยึดเอากุญแจรถไป ต่อมาทางดารานักแสดงหนุ่มก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความกลับ ในข้อหาชนแล้วหนี ว่า เป็นสิทธิของแต่ละฝ่ายที่จะแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไรก็ได้ ซึ่งตนก็ได้รับเรื่องไว้ก่อนจะทำการสอบสวนต่อไป โดยคดีของนายกานต์ที่แจ้งความเอาผิดกับดาราหนุ่มไว้ 3 ข้อหานั้น จากการสอบสวนในข้อหาลักทรัพย์ เบื้องต้นพบว่า ดาราหนุ่มนั้นไม่ได้มีเจตนาหรือจงใจเอาไป ด้วยความทุจริต หรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง โดยแค่กลัวว่านายกานต์จะหลบหนี จึงได้ยึดกุญแจเอาไว้ ก่อนจะส่งคืนฝากไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งยังไม่เข้าข่ายความผิด โดยเจ้าหน้าที่จะดูจากเจตนาเป็นหลัก ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายนั้น พบว่าไม่รุนแรง จึงน่าจะสามารถตกลงคุยกันได้ และในข้อหาดูหมิ่นนั้น ทางดาราหนุ่มก็ยอมรับว่าพูดไปจริง แต่เพราะด้วยความโมโห โดยทั้งสองข้อหานี้สามารถเปรียบเทียบปรับในชั้นพนักงานสอบสวนได้เลย ส่วนคดีที่ดาราหนุ่มได้แจ้งความกลับในข้อหาชนแล้วหนี ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องนำรถคู่กรณีทั้งสองคันส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบหาร่องรอยจากการเฉี่ยวชนจากรถของทั้งสองฝ่ายเสียก่อน จึงจะสรุปได้ ทั้งนี้ ตนได้รับคำสั่งจาก พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย อยากให้ทั้งคู่ได้เจรจากันก่อน หากสามารถตกลงกันได้ ก็จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับกันไป โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าจึงจะเรียกมาเจรจาที่ สน.โชคชัย ได้ เพราะช่วงนี้ทั้งคู่ยังติดภารกิจส่วนตัวกันอยู่

ต่อมา นายกานต์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร เพิ่งจะรับทราบข้อมูลผ่านทางสื่อมวลชนเท่านั้น ถ้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตนไปเจรจา ก็พร้อมที่จะเดินทางไปพูดคุย ส่วนตัวตอนนี้ก็ไม่ได้ติดใจอะไรอยู่แล้ว พร้อมที่จะให้อภัย ซึ่งในวันเกิดเหตุตนไม่รู้จริงๆ ว่าได้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานคู่กรณีมาก่อน ถ้าหากรู้ตนก็คงจะลงไปดูแล้ว ตนเป็นลูกผู้ชายพอ หากทำผิดจริงก็ยอมรับผิด แต่ถึงตอนนี้ตนก็ยังไม่ได้กุญแจรถยนต์กลับคืนมา หากพร้อมจะคืนกุญแจและเจรจาเมื่อใด ก็ให้ติดต่อมา เพราะตนก็อยากให้เรื่องจบกันด้วยดี