ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์” แถลงข่าว “รสนา โตสิตระกูล” จะโยกคดี พธม.ไปให้ดีเอสไอ ชี้วิพากษ์วิจารณ์และติชมด้วยความเป็นธรรม
ที่ห้องพิจารณา 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายดำ อ.3982/2553 ที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 กรณีเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2553 จำเลยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ทำนองว่า มีความพยายามจะให้คดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุมที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ให้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยโจทก์เป็นตัวตั้งตัวตี
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าจำเลยไม่ได้กล่าวยืนยันข้อเท็จจริง การใช้ถ้อยคำเป็นลักษณะตั้งคำถาม และเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ตามบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่โจทก์ทำหน้าที่ประธาน ได้มีการบรรจุวาระเกี่ยวกับการดำเนินคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะเดียวกันก็มีการอภิปรายเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวในวาระการประชุมครั้งที่ 18/2553 ครั้งที่ 20/2553 และครั้งที่ 21/2553 และเมื่ออ่านข้อความเกี่ยวกับบันทึกการประชุมก็อาจมีความเข้าใจได้ว่าจะมีการโอนคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ ดังนั้นข้อความที่จำเลยแถลงและหนังสือพิมพ์นำไปตีพิมพ์ จึงไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีมูล นอกจากนี้ก็ได้เชิญ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรืออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมาประชุม จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามิได้มีการสอบถามถึงเรื่องการจะโอนคดี การกระทำของจำเลยจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน