“ปูนิ่ม” เลื่อนให้ปากคำดีเอสไอ ระบุป่วยโรคประจำตัว โต้ไม่มีสารไซบูทรามีนในยาลดความอ้วน “โอ้โห บาย ปูนิ่ม” จ่อค้นแหล่งผลิตสินค้าเสริมความงามรายใหญ่อีก เผยมีเส้นทางการลักลอบนำเข้าคล้ายสาร “ซูโดอีเฟรดีน” เพื่อผลิตยาบ้า
วันนี้ (30 พ.ย.) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึง กรณี พล.ร.4 และ ดีเอสไอ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก, สรรพากร และฝ่่ายปกครอง สนธิกำลังเข้าตรวจค้น บริษัท โอ้โฮ สลิมพลัส ยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดอ้วน เครื่องสำอางภายใต้เครื่องหมายการค้า “โอ้โห บาย ปูนิ่ม” มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ทางดีเอสไอได้ออกหมายเรียก น.ส.ศิรินทรา เส็งสิน หรือ “ปูนิ่ม” แล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้ส่งทนายความมาแจ้งพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ว่า ขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำออกไปก่อน เนื่องจากป่วยด้วยโรคประจำตัว เบื้องต้นปฏิเสธว่าสินค้าที่สั่งผลิตภายใต้ยี่ห้อ “โอ้โห บาย ปูนิ่ม” ไม่ได้มีส่วนผสมของสาร “ไซบูทรามีน” โดยหลังจากนี้ดีเอสไอจะเข้าตรวจค้นบริษัทที่ผลิตสินค้าที่สารอันตรายปนเปื้อนแหล่งใหญ่อีกแห่งภายในสัปดาห์หน้า
รายงานข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูงแจ้งว่า สินค้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ความงาม ที่โฆษณาขายผ่านเว็บไซต์ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน ขณะที่สาร “ไซบูทรามีน” มีข้อมูลว่าเป็นสารที่นำเข้าจากจีน อินเดีย ทั้งนี้ สารดังกล่าว อย. ได้ถอดออกจากทะเบียนตำรับยาและห้ามนำเข้าตั้งแต่ปี 2553 แต่ยังมีการนำมาผลิตสินค้าได้ แสดงว่าต้องมีผู้ลักลอบนำเข้าสารต้องห้าม
สำหรับการนำเข้าสารไซบูทรามีน มาในประเทศไทย นั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่าถูกลักลอบนำเข้าผ่านด่านศุลกากรมาได้อย่างไร ซึ่งกรณีนี้วิธีการและเส้นทางนำเข้าคล้ายกับครั้งที่มีการนำเข้าสาร “ซูโดอีเฟรดีน” เพื่อลักลอบผลิตยาบ้า