ASTVผู้จัดการ – ผู้บังคับการกองปราบเผย พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รอง ผกก.6.บก.ป. ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อดีต ผบช.ก. ที่ถูกจับกุมพร้อมคณะ หายตัวไร้ร่องรอยหลังกลับจากดูงานที่สหรัฐฯ ชี้เป็นคนที่พนักงานสอบสวนต้องการสอบปากคำมากที่สุดคนหนึ่ง
วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่มีการจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมกับพวกในข้อหาร้ายแรงรวมทั้งสิ้น 5 ข้อหา ทั้งหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทุจริตในหน้าที่ มีการเรียกรับผลประโยชน์ รวมทั้งซื้อขายตำแหน่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ทาง พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้มีหนังสือให้ให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด กก.2 กก.3 กก.6 และ กก.ปพ. ในสังกัดกองปราบ ให้มารายงานตัวในวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย พ.ต.ท.สิทธิเมศวรีย์ ศิวคุปต์ ครุฑรานนท์ รอง ผกก.ปพ., พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รอง ผกก.6., ร.ต.อ.มนุพัศ ศรีบุญลือ รอง สว.กก.2., ร.ต.อ.นิธิพัฒน์ กังรวมบุตร รอง สว.ปพ., ร.ต.อ.ธนเสฏฐ์ คุ้มเล็กเดชาวุฒิ พงส.กก.3 และ ร.ต.อ.ธนพัฒธ์ กังรวมบุตร พงส.กก.3 โดยทั้งหมดเป็นตำรวจในสังกัดกองปราบปราม
ทั้งนี้ ผู้ที่มีรายชื่อต่างๆ ได้เข้ามารายงานตัวกับ พ.ต.อ.อัคราเดช แล้ว เหลือเพียง พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี รอง ผกก.6.บก.ป. นรต. รุ่น 49 ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ที่ยังไม่มารายงานตัว
ทั้งนี้ ตอนที่มีหนังสือครั้งแรก พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ได้ไปราชการดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลับมาประเทศไทยกลับยังไม่ยอมเข้าไปรายงานตัว โดยทางผู้บังคับบัญชาพยายามติดต่อทุกทางแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทรงรักษ์ เป็นนายตำรวจอีกคนที่ทางชุดพนักงานสอบต้องการสอบปากคำมากที่สุด เพราะถือเป็นคนใกล้ชิดอดีต ผบช.ก.
ในที่ประชุมของ บช.ก. ที่มี พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.ก. เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงต่างๆ ของ บช.ก. ในที่ประชุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ได้ขอให้ทาง กก.6.บก.ป. เข้าไปร่วมสืบสวนสอบสวน ผู้ต้องหาชาวอินโดนีเซีย จำนวน 8 คน ที่ถูกจับได้บนเรือลักลอบขนน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียที่น่านน้ำ จ.นราธิวาส เพื่อขยายผลไปถึงคนไทยที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผกก.6.บก.ป. กล่าวว่า ในที่ประชุมมีการเสนอมาให้เข้าไปร่วมทำงานด้วยจริง แต่ทั้งนี้ ต้องรอคำสั่งจากทางผู้บังคับบัญชาอีกที ถ้ามีคำสั่งลงมา พร้อมจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ทันที