ตำรวจเปิดตู้เซฟเครือข่าย “พงศ์พัฒน์” โชว์สื่อ จำนวน 2 ใบ แต่ไม่ปรากฏไม่พบสิ่งของมีค่า เชื่อมีการขนย้ายทรัพย์สินไปก่อนหน้านี้ จ่อเปิดตู้เซฟที่ยึดเพิ่มอีก 3 ใบจันทร์นี้
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (29 พ.ย.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.ก. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นำช่างมาเปิดตู้เซฟ จำนวน 2 ตู้ ที่ตรวจยึดได้จากบ้านเลขที่ 30/3 หมู่14 ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายชอบ ชินนะประภา ผู้เป็นสามีของ นางปิยพรรณ ชินนะประภา น้องสาวของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์ จูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
โดยเป็นตู้เซพยี่ห้อลีโก้ ไม่ได้ล็อกไว้ ไม่พบสิ่งของด้านใน ส่วนตู้เซฟ 2 ใบ ที่นำมาเปิดในวันนี้ เมื่อให้เจ้าหน้าที่บริษัทตู้นิรภัยเปิดออกไม่พบทรัพย์สินใดๆ เชื่อว่ามีการขนย้ายทรัพย์สินมีค่าออกไปก่อนหน้านี้
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เนื่องจากตู้นิรภัยดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดได้เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีการก่อปูนปิดไว้บริเวณข้างบ้านเพื่ออำพราง ซึ่งเป็นตู้เซฟยี่ห้ออีเกิ้ล จำนวน 2 ใบ ขนาดความกว้าง 61 ซม. สูง 36 ซม. ลึก 3.5 ซม. น้ำหนัก 60 กก. ความหนา 5 มม. ซึ่งผลิตที่ประเทศเกาหลี ถูกออกแบบมาให้ใช้ฝังเก็บไว้ในกำแพงหรือใต้ดิน โดยจะปรากฏแค่หัวเซฟเท่านั้น และไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีทรัพย์สินมีค่าอยู่ภายในแต่อย่างใด เชื่อว่ามีการขนย้ายทรัพย์สินมีค่าออกไปก่อนหน้านี้ และจะมอบให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบรอยลายนิ้วมือแฝง เพื่อหาความเชื่อมโยง
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันจันทร์นี้จะมีการเปิดตู้เซฟที่ยึดได้เมื่อวาน จากบ้านพักของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ย่านเมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ อีก 3 ใบ ซึ่งมีขนาดใหญ่สูง 1.7 ม. และไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และเชื่อว่าน่าจะใช้เป็นตู้เก็บของมีค่า นอกจากนี้ จะมีการขยายผลตรวจค้นบ้านพักของเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อีก 2 ถึง 3 แห่งด้วย ส่วน กรณีที่มีหนังสือประกาศคำสั่งยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน “อัครพงษ์ปรีชา” ออกมาจากกองกิจการในพระองศ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นั้น เบื้องต้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งผู้ที่ได้รับการให้ใช้นามสกุลดังกล่าวจะต้องให้กลับไปนามสกุล “เกิดอำแพง” ซึ่งเป็นนามสกุลเดิม ก่อนที่จะได้พระราชทาน และหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในการดำเนินการยกเลิกนามสกุลดังกล่าว
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าว หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะทำการตรวจสอบเพื่อหารอยลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอที่อยู่บริเวณตู้เซฟดังกล่าว โดยใช้วิธีการปัดผงฝุ่นสีดำตามจุดต่างๆทั้งในและนอกตู้เซฟ ซึ่งผู้ที่ขนย้ายน่าจะมีดีเอ็นเออยู่ที่เกิดเหตุ จากนั้นก็จะนำตู้เซฟดังกล่าวไปทำการตรวจสอบภายในห้องตู้ที่ใช้เทคโนโลยีที่ชื่อว่า ซุปเปอร์กรู ซึ่งเป็นการนำเอาความร้อนไปใช้กับวัตถุเพื่อหารอยลายนิ้วมือแฝงอีกครั้ง หากในกรณีที่วัตถุมีขนาดใหญ่ก็จะใช้วิธีลักษณะเดียวกันเพียงแต่ทำโดมเพื่อครอบวัตถุ อีกทั้งจะทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาความเชื่อมโยงกับตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัตถุพยานชิ้นนี้
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร ผกก.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.ป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า กรมป่าไม้ นำหมายศาล จ.นนทบุรี เลขที่ 1791/2557 เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 30/3 หมู่ 14 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมี นายสายันต์ ชินนะประภา อายุ 56 ปีเป็นผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า วันนี้ได้เข้าตรวจสอบไม้แปรรูปที่มีการนำมาเก็บไว้ที่บางใหญ่ พบว่า มีตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 2 ตู้ ภายในเก็บบรรจุไม้แปรรูปไว้ จำนวน 559 แผ่น รวมราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท โดยจากการตรวจสอบไม้ดังกล่าว พบว่าบางส่วนมีการตีตราอักษร “ป” และ “ย” แสดงว่ามีการตรวจปล่อย และตรวจยึด จึงต้องมีการตรวจสอบหลักฐานและอายัดไว้ก่อน สำหรับตู้เซฟต่างๆ ที่ยึดได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนตรวจสอบเช่นกัน