ตำรวจโชคชัยจับช่างก่อสร้างแสบ ตระเวนงัดบ้าน - ลักตู้เซฟเหยื่อย่านโชคชัย 4 ก่อนเอาทรัพย์สินของมีค่าในตู้เซฟไปขาย สารภาพทำมาหลายครั้ง ความเสียหายนับล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ สน.โชคชัย พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.ศาสตร์ศักดิ์ ชัยประเสริฐ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ต.กันต์พงษ์ โฆษิตสุริยมณี สว.สส.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมชาย พวงผกา หรือ นายปุรเชษฐ์ พวงสุวรรณ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1994/2557 ลงวันที่ 12 พ.ย.2557 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน” พร้อมของกลางตู้นิรภัย ยี่ห้อลีโก้ 1 ตู้ โฉนดที่ดิน จำนวน 2 ฉบับ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 3กฆ 917 กทม. และอุปกรณ์งัดแงะที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ บริเวณหน้าห้องพักไม่มีเลขที่ ภายในซอยเสือใหญ่อุทิศ แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สาโรช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ภายในซอยเสือใหญ่ แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบผู้ต้องหาผ่านมาจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมพร้อมขอดูบัตรประจำตัวประชาชนพบว่าตรงกับผู้ต้องหาตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ ที่ สน.โชคชัย
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับและก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มีนายเงาะ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซ้อนท้าย ไปตระเวนดูบ้านเรือนประชาชนบริเวณซอยสุคนธสวัสดิ์ แขวงและเขตลาดพร้าว กระทั่งพบบ้านเดี่ยว ชั้นเดียวไม่ได้ล็อคแม่กุญแจจากด้านใน จึงทำทีเดินไปกดกริ่ง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบ้าน จึงงัดแงะเข้าไปในบ้านแล้วจะลากตู้นิรภัยมาส่งให้กับนายเงาะ ที่ดูต้นทางอยู่หน้าบ้าน ก่อนนำตู้นิรภัยดังกล่าวขึ้นรถ จยย. กลับไปยังห้องพัก ย่านซอยลาดปลาเค้า 62 เพื่อทำการเปิดเอาทรัพย์สินภายในตู้เซฟ เมื่อเปิดออกพบว่ามีอาวุธปืนกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นเอสอาร์ 9 ซี ขนาด 9 มม. และโฉนดที่ดิน 2 ฉบับ จึงได้ให้นายเงาะเอาปืนดังกล่าวไปขายให้กับนายตุ๋ย (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ในราคา 15,000 บาท ก่อนจะนำเงินมาแบ่งกันคนละครึ่งส่วนหนึ่งตนจะให้ภรรยา และเก็บไว้ใช้ส่วนตัว ซึ่งปกติแล้วตนมีอาชีพรับจ้างเป็นคนงานก่อสร้าง แต่เงินไม่พอใช้จึงก่อเหตุเรื่อยมา ซึ่งเมื่อตนได้ตู้เซฟมาก็จะงัดเปิดตู้เซพแล้วเอาทรัพย์สินที่ได้ไปขาย ส่วนตู้เซฟก็จะนำไปทิ้งน้ำ ซึ่งจะก่อเหตุประมาณเดือนละ 2 ครั้ง
นายชูศักดิ์ เชื้อสาย อายุ 50 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า บ้านของตนอยู่ที่ ซอยสุคนธสวัสดิ์ 3 เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนกลับเข้าบ้านมาช่วงหัวค่ำจึงทราบว่าถูกคนร้ายบุกเข้า มาลักทรัพย์ เพราะตอนกลางวันไม่ค่อยมีคนอยู่บ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีตู้เซฟหายไป ภายในเซฟมีปืน 9 มม. 1 กระบอก และโฉนดที่ดิน 2 ฉบับ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 100,000 บาท โดยเมื่อสอบถามเพื่อนบ้านบอกว่าช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ได้ยินเสียงคนกดกริ๊งที่บ้านตน จนสุนัขเห่า แต่ก็ไม่ได้ออกมาดูจึงไม่เห็นตนร้าย ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ต่อมา ตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจมากที่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้
พ.ต.อ.ธนวัตร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ร่วมกับนายเงาะ โดยมีหมายจับศาลอาญาเลขที่ 139/2554,1994/2557 และ 1352/2557 รวม 3 ใบ ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ นอกจากนี้ ยังเคยร่วมกันลักทรัพย์ บ้านเลขที่ 52 ซอยโชคชัย 4 แยก 22 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2557 ซึ่งยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท โดยผู้ต้องหามีประวัติการต้องโทษ ในคดี ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ เมื่อปี 2551 ซึ่งถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ก่อนพ้นโทษและกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
พ.ต.อ.ธนวัตร กล่าวต่อว่า อยากจะฝากไปยังร้านรับซื้อของเก่าว่าอยากจะให้ตรวจสอบสิ่งของที่รับซื้อก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกแจ้งข้อหา “รับของโจร” ซึ่งหากผู้ค้าไม่รับซื้อของที่ถูกขโมยมา ตนเชื่อว่าปัญหาการลักทรัพย์จะลดลงอย่างแน่นนอน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทราบตัวผู้ร่วมก่อเหตุแล้ว
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
