xs
xsm
sm
md
lg

คุมตัว “พงศ์พัฒน์” ส่งศาลเพื่อไปขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตำรวจคุมตัว “พงศ์พัฒน์” หมิ่นเบื้องสูง เรียกรับผลประโยชน์ส่งคืนศาลอาญาเพื่อออกหมายขังเอาตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังรับตัวไปสอบเพิ่มเสร็จแล้ว

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (29 พ.ย.) พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.อคฝ. และ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก. 2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 20 ราย ได้นำตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง, ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ, เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์, เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 157, 148, 149 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มาส่งมอบคืนต่อศาลอาญาเพื่อส่งไปควบคุมยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ โดยรถตู้ของสำนักงานแห่งชาติ ขณะที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ผู้ต้องหาใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีส้ม กางเกงขาสั้นสีดำ และสวมรองเท้าแตะ สภาพใบหน้าอิดโรย โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ขึ้นรถตู้ของกรมราชทัณฑ์ส่งไปยังเรือนพิเศษกรุงเทพฯ ทันที

พ.ต.อ.เอกรักษ์ กล่าวว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้นำตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ผู้ต้องหามาฝากขังต่อศาล และขอรับตัวกลับไปสอบสวนเพิ่มเติมระหว่างฝากขัง เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จึงนำตัว พล.ต.ท พงศ์พัฒน์ มาส่งคืนต่อศาลอาญา เพื่อให้ออกหมายขัง และหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะควบคุมตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป โดยจะครบกำหนดฝากขังครั้งแรกวันที่ 4 ธ.ค. จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะมายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งสองพร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง เกรงว่าจะใช้อิทธิพลไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มีสภาพอิดโรยนั้น ยืนยันว่า ระหว่างการสอบสวนไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

พ.ต.อ.เอกรักษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สำหรับผู้ต้องหาในเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่ฝากขังต่อศาลจังหวัดพระโขนง จำนวน 5 ราย เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น ทางพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง จะทำการรวบรวมหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป ส่วนการตรวจค้นทรัพย์สินเพิ่มเติมในคดีนี้ ถ้าหากพบว่าในพื้นที่ใดมีทรัพย์สินของกลางที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดซุกซ่อนอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะไปดำเนินตรวจค้นเพิ่มเติม และหากพบว่ามีบุคคลใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีก ก็จะออกหมายจับเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น