ประมวลภาพบรรยากาศ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ และพวก ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สอบปากคำที่กองปราบปราม วังปารุสกวัน ในช่วงเช้า หลังจากนั้น ในช่วงบ่ายได้นำมาที่ศาลอาญา เพื่อยื่นขอศาลฝากขัง พร้อมค้านประกัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่ เวลา 08.00 น. วันนี้ (24 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1 กองร้อง ได้ควบคุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พร้อมพวกรวม 8 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลอาญา มาตรา 112 และเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ มาตรา 148 และเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 149 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มายัง บช.น. เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมกัน
โดยขณะที่นำตัวผู้ต้องหาเข้ามาในพื้นที่ บช.น. ทางเจ้าหน้าที่ได้กันผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวจำนวนมากให้ออกห่างจากจุดควบคุมตัว รวมทั้งห้ามถ่ายภาพใดๆ ทำได้เพียงการสังเกตการณ์เท่านั้น
สำหรับบรรยากาศ ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 08.00 น. จนกระทั่งเที่ยงวัน มีผู้สื่อข่าวและช่างภาพจำนวนมาก มารอเฝ้าติดตามทำข่าว กรณีที่พนักงานสอบสวน จะควบคุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวกรวม 8 คน มาขออำนาจศาลอาญาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. - 5 ธ.ค. นี้ แต่ต่อมาทราบว่าพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวทั้งหมดไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล คาดว่าจะมาฝากขังในช่วงบ่าย
จนเวลา 13.30 น. ที่ บช.น. ยังมีนักข่าวทยอยมาทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ใน บช.น. สั่งห้ามผู้สื่อข่าวเก็บภาพ และให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้เท่านั้น ซึ่งมีผู้สื่อข่าวหลายสังกัดสงสัยว่าทำไมถึงถ่ายภาพไม่ได้ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่อนุโลมให้ผู้สื่อข่าวสามารถเก็บภาพได้ แต่ห้ามเข้าไปถ่ายใกล้รถที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา หรือห้ามกีดขวางทางเดินรถเด็ดขาด
จากนั้น เวลา 15.00 น. พนักงานสอบสวนได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางไปยังศาลอาญาเพื่อขออำนาจฝากขัง โดยใช้รถตู้สีขาวจำนวน 3 คัน โดย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นั่งอยู่ในรถตู้คันที่สอง มีรถตำรวจนำและปิดท้ายขบวนอย่างแน่นหนา ก่อนมุ่งหน้าขึ้นทางด่วนที่แยกยมราช
เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหามาฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว ได้แก่ พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์, ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา, ด.ต.ฉัตรินทร์ หรือ จักรินทร์ เหล่าทอง, นางสวงค์ มุ่งเที่ยง, นายชอบ ชินนะประภา และ นางติยะพรรณ ชินนะประภา รวม 6 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่และพลเรือน ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ และ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาอื่นๆ แตกต่างกันโดยฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. ถึง วันที่ 5 ธ.ค.
ด้าน พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการกองอารักขา และควบคุมฝูงชน ได้เปิดเผยกับสื่อมวชนว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมพวกรวม 4 คน ได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน จึงไม่ได้นำตัวมาขอศาลฝากขัง หลังจากนั้น แต่เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ได้มีรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.ศูนย์สืบสวน บชน. เดินทางมาด้วย และมีรถตู้ตำรวจ 3 คัน ขับเข้ามาด้านหลัง เมื่อประตูเปิดออก พบว่า พล.ต.ท.พงศ์ พัฒน์ ถูกคุมตัวลงมา โดยสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว มีสีหน้าเคร่งเครียด และนายตำรวจอีก 3 คนได้ถูกคุมตัวมาเช่นเดียวกัน โดยทั้งหมดได้เข้าไปยังห้องส่งตัวผู้ต้องหา ใต้ถุนศาลอาญา
ต่อมาศาลได้พิจารณาอนุมัติตามคำร้องของพนักงานสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ได้ คุมตัว พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีต รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีต ผบก.รน. ส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขณะที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พนักงานสอบสวนได้รับตัวกลับไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่เปิดเผยสถานที่ และยังไม่ส่งเรือนจำ
