ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต อดีต รอง ผกก.พัวพันค้ายาบ้า 1 ล้านเม็ด ชี้พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (27 พ.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อย.4063/2550 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 2 เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.อภิวุฒิ หรือนายอภิวุฒิ งามสมบัติ หรือนายเพชร นนทะภา เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นข้าราชการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือน พ.ค. 2541 - 14 มี.ค. 2542 ต่อเนื่องกัน ขณะเกิดเหตุจำเลยรับราชการเป็น รอง ผกก.แห่งหนึ่งใน บช.น.กับพวกที่หลบหนี ร่วมกันครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ให้แก่ลูกค้า ต่อมาวันที่ 14 มี.ค. 2542 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 2 ราย ได้ของกลางยาบ้ารวม 1,016, 400 เม็ด เมื่อสอบสวนขยายผลทราบว่าจำเลยมีส่วนร่วมรู้เห็นกับกลุ่มค้ายาเสพติดดังกล่าว จึงเข้าจับกุมได้ที่ ห้องพักเลขที่ 811 อาคารไนซ์แมนชั่น 2 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2553 เห็นว่าจำเลยมีความผิดจริงตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม และตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ลงโทษประหารชีวิต ริบของกลาง จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้องด้วย
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ แต่คำให้การของจำเลยประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม จึงพิพากษาแก้ ฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นข้าราชการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและริบของกลาง
ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาขอให้พิพากษายกฟ้องด้วย
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ มีตำรวจชุดจับกุมเบิกความสอดคล้องกันในข้อเท็จจริง พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือไ ม่มีการปรุงแต่ง ฟังได้ว่า เมื่อระหว่างวันที่ 8-14 มีค 2542 จำเลยกับพวกค้าเมทแอมเฟตามีน โดยจำเลยมีพฤติการณ์อำนวยความสะดวกในการขนส่งยาเสพติด ข้อต่อสู้ของจำเลยมีน้ำหนักน้อยไม่อาจหักล้างได้ เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต