ศาลสั่งประหารสองพ่อลูก รับจ้างเอเยนต์ขนยาบ้าเกือบ 1 ล้านเม็ด จากภาคกลางไปส่งที่ จ.กระบี่ ชี้หลักฐานมัดแน่น ทั้งการใช้โทรศัพท์ติดต่อแก๊งค้ายา และคำเบิกความตำรวจ แต่ลูกชายรับสารภาพเหลือติดคุกตลอดชีวิต
ที่ห้องพิจารณา 910 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (29 ส.ค.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีดำ อย.3418/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอาทิตย์ หอทอง อายุ 31 ปี และนายสมควร หอทอง อายุ 57 ปี สองพ่อลูกร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2556 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองได้ลักลอบขนยาบ้าชนิดเม็ดสีเขียว สีเหลือง ประทับอักษร wy จำนวน 50 มัด รวม 998,000 เม็ด ไว้ในกระเป๋าเดินทาง ขณะเดินทางโดยรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนป้ายแดง อ 7272 กรุงเทพมหานคร เพื่อไปส่งให้เอเยนต์ที่ จ.กระบี่ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ที่ผสานธิกำลังกันตั้งด่านตรวจบริเวณแยกกาแล ถ.แสงชูโต หมู่ 3 ต.ปากแรด อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พบยาบ้าของกลางซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง จึงนำตัวทั้งสองพร้อมของกลางหลายรายการส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.ดำเนินคดี
โดยนายอาทิตย์ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพตลอดว่ารับจ้างจากนายพัน เอเยนต์ค้ายาที่ จ.กระบี่ ให้นำยาบ้าดังกล่าวไปส่งราคา 1 แสนบาท ส่วนนายสมควร จำเลยที่ 2 บิดา ให้การปฏิเสธ อ้างว่าแค่นั่งเป็นเพื่อนบุตรชายไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดแต่อย่างใด
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเบิกความสอดคล้องต้องกันตั้งแต่การจับกุม จำเลยมีการโทรศัพท์ติดต่อกับนายพัน เอเยนต์ค้ายาเสพติดมาโดยตลอด จึงไม่มีน้ำหนักกหักล้าพงยานโจทก์ได้เชื่อว่า เบิกความไปตามจริง ไม่มีเหตุที่จะปรักปรำใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับโทษ
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม ลงโทษประหารชีวิต คำรับสารภาพของ จำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2 คงให้ประหารชีวิต และให้ริบของกลาง
