“พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง” เผยเรียกฝรั่งส่งชิ้นส่วนทารกไปอเมริกาสอบปากคำแล้วไม่พบพิรุธ อ้างซื้อจากไนท์บาซาร์ย่านฝั่งธนบุรี เพราะเห็นว่าแปลกดี เบื้องต้นพิมพ์ลายนิ้วมื้อเก็บไว้ก่อนปล่อยตัวไป คาดถูกขโมยมาจากสถาบันการศึกษาหรือสถาบันการแพทย์ แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ ยังไม่ฟันธงชิ้นส่วนคนเดียวกันหรือไม่
วันนี้ (16 พ.ย.) พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่บริษัท ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด สาขาพระราม 3 บริษัทรับ-ส่งสินค้าระหว่างประเทศ พบชิ้นส่วนทารกในกล่องพัสดุ เตรียมส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ตำรวจได้เชิญนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของพัสดุมาสอบปากคำ เบื้องต้นไม่พบพิรุธ อ้างว่าได้ซื้อชิ้นส่วนดังกล่าวมาจากตลาดไนท์บาซาร์ ย่านฝั่งธนบุรี ราคาพันกว่าบาท และต้องการส่งไปให้เพื่อนที่สหรัฐอเมริกา เพราะเห็นว่าแปลกดี เจ้าหน้าที่จึงได้พิมพ์ลายนิ้วมื้อเก็บไว้ก่อนปล่อยตัวไป
ส่วนชิ้นส่วนที่พบเบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะถูกขโมยมาจากสถาบันการศึกษา หรือสถาบันทางการแพทย์ที่มีไว้สำหรับการศึกษา เนื่องจากลักษณะการผ่าการตัดชิ้น และการเก็บทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังสถาบันต่างๆ ว่ามีของลักษณะดังกล่าวหายไปหรือไม่ พร้อมส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสยังตลาดดังกล่าว ส่วนชิ้นส่วนทารกได้ส่งต่อไปยังแผนกนิติเวชวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.ชุมพล กล่าวว่า กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะถูกนำมาใช้ในทางไสยศาสตร์ เนื่องจากพบรอยคล้ายอักขระ และยันต์นั้น น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่บังเอิญมีรอยอักขระมากกว่า และคนธรรมดาไม่น่าจะทำได้ เชื่อว่ามีคนลักลอบนำออกมาจากสถาบันทางการแพทย์ ส่วนชาวต่างชาติจะซื้อไปเก็บสะสมหรือทำอะไรนั้นไม่สามารถยืนยันได้ แต่เชื่อว่าคนนิยมของแปลกก็อาจนำไปสะสมได้
ที่แผนกนิติเวชวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ ผศ.นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลสิน แพทย์ผู้ตรวจชิ้นเนื้อทารกดังกล่าว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากคนเดียวกันหรือไม่ โดยขณะนี้ทางแพทย์เพียงแต่สังเกตด้วยตาเปล่า แต่ที่เห็นได้อย่างแน่ชัดนั้นว่า ส่วนของใบหน้าเป็นมนุษย์จริง หลังจากนี้จะทำการวัดขนาดของชิ้นส่วนทุกชิ้น และส่งทุกชิ้นส่วนไปพิสูจน์ว่ามาจากคนคนเดียวกันหรือไม่