ประมูลทุบคุกกองปราบปราม 3.4 ล้าน โดยมีกำหนดระยะเวลาในการรื้อถอน 40 วัน ปิดตำนาน “ผีเสื้อแดง” แต่เหล็กกรงขังที่ใช้ขังผู้ต้องหาที่ก่อคดีข่มขืนหลานสาวในไส้วัย 11 ขวบ จนตั้งท้องและคลอดลูก กระทั่งผูกคอตายเมื่อปี 50 ยังไม่ได้รื้อถอน
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำการรื้อถอนห้องขัง บก.ป. เพื่อย้ายไปต่อเติมห้องขังในอาคาร ปคม.เก่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มาทำการรื้อถอนเหล็กลูกกรงของห้องขังภายคุกกองปราบ ที่มีตำนานถึงความสยองขวัญของผีกองปราบ โดยจากการสำรวจภายในคุกพบว่าเหล็กลูกกรงที่อดีตเคยใช้เป็นที่คุมขังผู้ต้องหาในคดีต่างๆ ถูกรื้อถอนเหล็กออกมาบางส่วนแล้ว คงเหลือไว้บางส่วนที่ไม่ได้รื้อถอนออกมาด้วย
ทั้งนี้ เหล็กที่รื้ออกมานั้นก็จะนำมาต่อติมห้องขังที่อาคารกองบังคับการปราบปรามชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าเหล็กกรงขังส่วนที่ไม่ได้รื้อถอนนั้นเป็นจุดที่ นายฉลาด เสนารัตน์ อาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ต้องหาข่มขืนหลานสาวในไส้วัย 11 ขวบ จนตั้งท้องและคลอดลูก ใช้เป็นที่ผูกคอตายในคืนวันที่ 12 กรกฎาคม 2550 พร้อมทั้งตะปูเขียนข้อความลาตายไว้ที่พื้นห้องขังว่า “วาวลูกรัก พ่อลาก่อน คดีความจะจบลงแค่นี้ พ่อขอโทษ” ก่อนจะเป็นที่มาของเรื่องราวของผีเสื้อแดงกองปราบ ทำให้มีการวิจารณ์กันไปต่างๆ ถึงเหตุผลทำที่ไม่รื้อถอนส่วนดังกล่าวไปด้วย
นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางกองบังคับการปราบปรามได้เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาประมูลรื้อถอนอาคาร บก.ป.เก่าทั้งหมด 2 ตึก โดยมีผู้ที่เข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ทั้งหมด 152 ราย เปิดราคากลางที่ 487,777 บาท ใช้เวลาในการประมูลกว่า 1 ชั่วโมง ปรากฏว่า บริษัท ศักดาทุบตึก สามารถชนะการประมูลได้ในราคา 3.4 ล้านบาท ทิ้งห่างอันดับ 2 ที่สู้ราคาเพียง 2.8 ล้านบาท และหลังจากนี้จะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในอีก 3 วันข้างหน้านี้ โดยมีกำหนดระยะเวลาในการรื้อถอน 40 วัน หากเกินกำหนดจะถูกปรับวันละ 100 บาท